ออกล่าตัว คนร้ายดักเล่นงาน จนท.อย่างต่อเนื่อง

"ไล่ล่าคนร้าย ดักเล่นงาน คณะ ดร.อุกฤษ"


กรณีกลุ่มโจรใต้ลอบวางระเบิดสะพานหมายเล่นงานคณะของ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.ยส.) ซึ่งเข้าไปพบปะ ชาวบ้านที่มัสยิดตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่ระเบิด เกิดทำงานขึ้นก่อนที่ ดร.อุกฤษ และคณะ จะออกเดินทางกลับ เหตุเกิดบนถนนสายบ้านฮูลูปาเร๊ะ-บ้านตันหยงลิมอ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้ (28 ก.ค.) พ.ต.ท. วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ร่วมกับ ร.ต.อ.อรรถพล วิภาศินนท์ ผบ.มว.ตชด.2302 และ ร.ต.ต.พัฒนศักดิ์ เพียรงาม ผบ.มว.3 นปพ.ภ.จ.นราธิวาส นำกำลังจำนวน 80 นาย บุกเข้าจู่โจมตรวจค้นหมู่บ้านฮูลูปาเร๊ะ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส และหมู่บ้านตันหยงลิมอ หมู่ 5 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องดักเล่นงานคณะของ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธาน กอ.ยส.


"จับได้ 2 คนเป็นแกนนำกลุ่มอาร์ เค เค"


ผลการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ 2 คน คือ นายอูดีมัน สาเม๊าะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 12 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีหมายจับ พ.ร.ก.ที่ จ.563/2549 ในข้อหาทำและมีวัตถุ ระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีค่าหัวนำจับ 5 แสนบาท พร้อมของกลางอาวุธปืน 11 มม. 1 กระบอกพร้อมกระสุน 6 นัด และนายสะปือรี เจ๊ะคอ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 4 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

นำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ ศปก.ตร.สน.ยะลา ส่วนอาวุธปืนของนายอูดีมันนำส่งให้กองวิทยาการเขต 45 ตรวจสอบว่าเคยนำไปใช้ก่อเหตุในพื้นที่ใดมาบ้าง เนื่องจากตรวจ สอบประวัติพบว่า ทั้งคู่เป็นแกนนำกลุ่มอาร์.เค.เค.ในพื้นที่ เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งและมีส่วนพัวพันกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงครูประสาน มากชู ครูโรงเรียนบ้านบือแรง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จนเสียชีวิตคาห้องเรียนเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ด้วย


"สอบพยาน เพิ่มเติมก่อนเสนอขอหมายจับ"


ส่วนความคืบหน้าการล่าตัว 4 คนร้ายบุกยิงนายประสาน มากชู ครูโรงเรียนบ้านบือแรง หมู่ 1 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จนเสียชีวิตคาห้องเรียน ทาง พ.ต.อ. สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง หัวหน้างานสืบสวนคดีพิเศษ ศปก.ตร. ส่วนหน้ายะลาได้เรียกพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มา สอบปากคำ จำนวน 13 คน ส่วนพยานอีก 5 คน เป็นครู ของ ร.ร.บ้านบือแรง ต้องรอให้เดินทางกลับจากการไปร่วมงานศพของนายประสาน มากชู ที่ จ.พัทลุง เสียก่อน โดยจะมาให้ปากคำในวันที่ 31 ก.ค. นี้ ส่วนกลุ่มคนร้ายทราบชื่อหมดแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมอีกบางส่วนก่อนจะเสนอขออนุมัติออกหมายจับในวันที่ 31 ก.ค. นี้เช่นกัน

วันเดียวกันเมื่อเวลา 13.00 น. นายอดุลย์ เจ๊ะเย็ง รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านบือแรง ได้ร่วมกับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น โต๊ะอิหม่าม และชาวบ้านประมาณ 100 คน ประกอบพิธีสวดฮายัตภายในห้องเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ของโรงเรียนบ้านบือแรง ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุคนร้ายบุก ยิงนายประสานจนเสียชีวิตคาที่เพื่อขอพรให้เกิดสันติสุขและอย่าให้มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ รวมทั้งดลบันดาล ให้สามารถจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว ในการทำพิธีละหมาด ได้มี พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ ผกก.สภ.อ.รือเสาะ นายดลเดช พัฒนรัฐ นอภ.รือเสาะ นำกำลังตำรวจ อส. และทหาร ไปรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ร่วมพิธีด้วย


"ทรงพระเมตตา รับลูกครูไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์"


ส่วนบรรยากาศที่วัดควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อเวลา 16.00 น. นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผวจ.พัทลุง เป็นประธานอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาตั้งวางหน้าหีบศพของนายประสาน มากชู ครูโรงเรียนบ้านบือแรงที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยจะมี พิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 14.00 น. พร้อมทั้งยังอัญเชิญกระแสรับสั่งที่จะรับ ด.ญ.เพ็ญปิติ มากชู วัย 14 ปี บุตรสาวของครูประสาน ซึ่งกำลังศึกษา อยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนจุฬาภรณ์ จ.สตูล ไว้เป็นนักเรียนใน พระบรมราชินูปถัมภ์ ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวของครูประสาน มากชู เป็นล้นพ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.ปัตตานี กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมอาหารปลอดภัยเทิดไท้องค์ราชันย์ 60 ปีครองราชย์ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคม ณ บริเวณลานศิลปวัฒนธรรม ถึงความคืบหน้าการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่บุกยิงสถานียุทธศาสตร์เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า


"ออกไล่ล่าคนร้ายอีก 7 คนที่เหลือ"


จากการติดตามอย่างต่อเนื่องสามารถยืดอาวุธปืนกลับคืนมาได้ 11 กระบอก ส่วนการติดตามล่าตัวกลุ่มคนร้ายอีก 7 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ พบว่ายังคงกบดานอยู่ในเขตพื้นที่ 3 อำเภอ คืออำเภอกะพ้อ อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น แต่ล่าสุดเท่าที่ทราบ 2 ใน 7 คนร้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตแล้วเมื่อหลายวันก่อน ศพถูกนำไปฝังในกุโบร์ที่ อ.กะพ้อและ อ.ไม้แก่น แห่งละ 1 ศพ ขณะเดียวกัน ก็พบแหล่งซ่อนตัวของกลุ่มคนร้ายด้วย แต่ไม่พบตัวกลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะบาดเจ็บหนัก เพราะจุดที่ซ่อนตัวเต็มไปด้วยผ้าพันแผลซับเลือดและน้ำหนองจำนวนมาก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมต้องยอมรับข้อมูลเพิ่มขึ้น 2 อย่าง คือคนร้ายนิยมแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ ซึ่งคนร้ายที่เสียชีวิตก็อยู่ในชุดทหารและตำรวจ 1 ในกลุ่มคนร้ายที่เสียชีวิตก็เป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่เคยเข้าตรวจค้นแล้วเจอตะปูเรือใบซ่อนอยู่ในบ้าน พอเชิญตัวมาสอบสวนก็มีการปลุกระดมม็อบมาปิดล้อมโรงพักบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องปล่อยตัวออกมา สุดท้ายก็มากลายเป็นศพ ขณะพาพวกบุกยิงถล่มสถานียุทธศาสตร์เตราะบอน


"ชาวบ้านประท้วงจนต้องปล่อยตัวไป"


เช่นเดียวกัน ที่อำเภอยะรัง เหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ผู้จ้างวานเยาวชนไปยิงเจ้าหน้าที่กรมประมงก็เป็นบุคคลเดียวกับที่เจ้าหน้าที่เคยตรวจค้นในฐานะให้ที่พักพิงคนร้าย แต่ถูกชาวบ้านประท้วงจนต้องปล่อยตัวไป และมาถูกจับได้ในภายหลังอีกเหมือนกัน ขณะนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ปัตตานีระดับสั่งการ มีเหลืออยู่ 39 คน ที่มีเครือข่ายอยู่ตามตำบลหมู่บ้านต่างๆ ได้ออกหมายจับไปหมดแล้ว ผวจ.ปัตตานีสรุป

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 05.30 น. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ท.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 43 นำกำลังตำรวจ-ทหาร รวม 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่อำเภอสายบุรีหลายจุด พบรถ จยย.ไม่ติดป้ายทะเบียน 1 คัน และเสื้อเกราะอีก 2 ตัว ถูกทิ้งไว้ในคลอง ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี เชื่อว่าเป็นของกลุ่มคนร้ายทิ้งไว้ หลังก่อเหตุยิงสถานียุทธศาสตร์เตราะบอน นอกจากนี้ยังจับผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.ก.อีก 2 คน คือนายอัมรำ นรา และนายมะสุกรี อีแตนำตัวไปสอบสวนที่ ศปก.ตร.สน.ยะลา


"ต้องเพิ่มขีดความสามารถ"


ที่กรมการสารวัตรทหารบก กทม. วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันคล้ายวันสถาปนากรมการสารวัตรทหารบกครบรอบปีที่ 55 กรณีที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม เน้นย้ำในที่ประชุมสภากลาโหมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีความเป็นเอกภาพมากขึ้นว่า แม้คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่มอบอำนาจให้กำกับดูแลปัญหาดังกล่าวยังไม่ออกมา แต่ยังมีอำนาจในการกำกับดูแลกองทัพภาคที่ 4 อยู่ ได้เน้นย้ำไปที่กองทัพภาคที่ 4

และกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนย้ายกำลัง หากเกิดเหตุที่ใดจะต้องรีบไปให้ถึงที่เกิดเหตุโดยเร็ว โดยให้เกลี่ยกำลังที่มีภาระมากๆ เช่น ช่วงเช้าที่ต้องไปส่งครู หรือรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางต่างๆ จะต้องเตรียมกำลังไว้เป็นกองหนุนแก้ไขปัญหาให้ได้ตามที่กำหนดนโยบายไว้


"ต้องมีการระวังกันอย่างรัดกุม"


เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแสดงความเป็นห่วงครูที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.สนธิกล่าวว่า กอ.สสส.จชต.คงจะไปจัดระเบียบ เพราะขั้นตอนการระวังป้องกันในแต่ละอำเภอ กอ.สสส.จชต.อำเภอ จะเป็นผู้วางแผนร่วมกับพลเรือน ตำรวจ ทหาร อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำไปแล้วว่าในระดับอำเภอต้องบูรณาการในทุกเรื่อง เพื่อจัดระบบการศึกษา เพราะเมื่อจัดได้แล้ว ระบบการรักษาความปลอดภัยจะตามมาเอง ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องมาช่วยกัน

ส่วนเหตุรุนแรงรายวันยังมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.15 น. วานนี้ (28 ก.ค.) พ.ต.อ.อนุรุธ อิ่มเอิบ ผกก.สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหารชุดกองร้อย รพศ.534 บ้านบาเจาะ ต.บาเจาะ แต่กระสุนลอยข้ามไปตกอีกฝั่งของแม่น้ำปัตตานี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ อีกรายเมื่อเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.เดชาวุธ เจ๊ะเต๊ะ รอง ผกก.ป.สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา รุดไปตรวจสอบเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงนายสุรพล แซ่ซั้น อายุ 56 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เข้าที่ศีรษะ 1 นัดเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านสันติ 1 หมู่ 2 ตำบลเดียวกัน คาดเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์รายวัน



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์