สยอง !! เศรษฐินีเจ้าแม่ธุรกิจรถบัส พรุน 3

น้องสาวรับเคราะห์แทนโดนกระสุนดับ ก่อนเกิดเหตุไปธนาคารเบิกเงิน 1 ล้านบาทมาจ่ายลูกน้อง นั่งมาในรถเก๋งมีลูกสาวเป็นคนขับและน้องสาวนั่งข้างหลัง ระหว่างทางมีรถปิคอัพขับเข้าประกบ คนร้ายใช้ปืนลูกซองกระหน่ำยิงใส่ 4 นัดซ้อน ตัวเจ้าแม่และลูกสาวโดนกระสุนแค่บาดเจ็บ ส่วนน้องสาวที่นั่งข้างหลังเจอเต็มๆร่างพรุน คาดชนวนเหตุมาจากการผูกขาดธุรกิจรถรับส่งคนงานโรงงาน ใครจะเอารถมาวิ่งร่วม ถ้าไม่ผ่านเจ้าแม่วิ่งไม่ได้

พ.ต.ต.วสันต์ ทิพยรัตน์ สารวัตรเวรสภ.อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายพุแค-หล่มสัก หลักก.ม.ที่ 35-36 หมู่ 8 ต.โคกสลุง มีผู้บาดเจ็บหลายคน หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นนำกำลังไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.ท.ธนากร สุวรรณศรี รองผกก.หน.สภ.ต.โคกสลุง พ.ต.ท.แทน บุรีภักดี สวป.สภ.อ.พัฒนานิคม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี

สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษศ 6628 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ไหล่ถนนในสภาพมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้ากระจกหน้ารถ 1 รู คานหน้ารถ 1 รู กระจกข้างด้านคนขับ 1 รู ขอบประตูรถด้านคนขับ 1 รู ที่ประตูรถด้านหลังข้างซ้ายมีรอยเลือดกระจายเต็มเกือบทั้งประตู ส่วนคนเจ็บทราบว่ามี 3 คน พลเมืองดีช่วยนำส่งร.พ.พัฒนานิคม ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

ที่ร.พ.พัฒนานิคม เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าเป็นผู้หญิงทั้ง 3 คนแพทย์และพยาบาลให้การรักษาอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วยนางเจตกัลยา เจริญศิริโรจน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/6 หมู่ 1 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ปลายคาง น.ส.รสา เจริญศิริโรจน์ อายุ 32 ปี ลูกสาวนางเจตกัลยา ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าที่คาง และลำคอ และนางณกิฤตา ศิริภักดิ์ อายุ 47 ปี น้องสาวนางเจตกัลยาถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าใบหน้าและลำตัวพรุนทั้งร่าง เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งสามคนโดยเฉพาะนางเจตกัลยาเป็นผู้มีฐานะดีระดับเศรษฐี

ตนเป็นเจ้าของบริษัท ทวีปยานยนต์ จำกัด มีรถบัสรับจ้างขนส่งพนักงานโรงงานบีฟู้ดโปรดักซ์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตไก่สดแช่แข็งแห่งเดียวในจังหวัด ก่อนเกิดเหตุพร้อมด้วยลูกสาวและน้องสาว เดินทางไปเบิกเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชัยบาดาล จำนวน 1 ล้านบาทเศษ เพื่อนำมาจ่ายให้กับรถที่มาวิ่งร่วมรับส่งคนงาน หลังเบิกเงินแล้วเดินทางกลับบริษัทมาตามถนนสายดังกล่าว โดยลูกสาวทำหน้าที่ขับรถ ตนนั่งคู่เบาะหน้า ส่วนนางณกิฤตานั่งเบาะหลังฝั่งเดียวกัน

เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ เลยป้อมตำรวจข้างทางมาได้ประมาณ 1 ก.ม. มีรถยนต์กระบะสีขาวติดหลังคาไฟเบอร์แครี่บอย ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนขับมาประกบ จากนั้นคนร้ายที่นั่งเบาะหน้าคู่มากับคนขับ ใช้อาวุธปืนลูกซอง 5 นัดยิงใส่รถของพวกตน 4 นัดซ้อนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แล้วเร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนีไปทางอ.พัฒนานิคม ส่วนลูกสาวยังพอมีสติอยู่บังคับรถเข้าจอดไหล่ถนน จากนั้นลงไปโบกมือขอความช่วยเหลือรถที่ขับตามหลังมาให้ช่วยนำส่งร.พ. แต่นางณกิฤตาน้องสาวทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตหลังไปถึงร.พ.ไม่นาน

สำหรับสาเหตุที่ถูกคนร้ายตามประกบยิงหมายเอาชีวิตครั้งนี้ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับใครมาก่อน รถที่วิ่งรับส่งคนงานโรงงานไก่คันอื่นก็ให้มาวิ่งร่วมด้วย ไม่น่าที่จะใช่สาเหตุที่ทำให้ถูกตามล่าเอาชีวิต เพราะถ้าตนไม่ได้รับสัมปทานวิ่งรับส่งคนงาน คนอื่นก็ไม่สามารถที่จะนำรถมาวิ่งได้เช่นกัน ต้องผ่านตนเองก่อน

สาเหตุที่นางเจตกัลยาถูกตามประกบยิงจนตัวเองและลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องสาวเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะมาจาก 2 ประเด็นคือ ชิงทรัพย์และขัดแย้งธุรกิจขนส่ง โดยเรื่องชิงทรัพย์คาดว่าขณะที่นางเจตกัลยาเข้าไปเบิกเงินสด 1 ล้านกว่าบาทจากธนาคาร อาจจะมีคนร้ายหรือคนที่รู้ความเคลื่อนไหวแฝงตัวอยู่ในธนาคาร หลังนางเจตกัลยาเบิกเงินสดมาแล้วและขับรถเพื่อกลับบริษัท จึงขับรถตามประกบจากนั้นจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่หวังจะให้รถคว่ำตกถนน จะได้ลงไปเอาเงินที่เบิกจากธนาคารมาหลบหนี แต่ไม่สำเร็จเพราะน.ส.รสาที่เป็นคนขับบาดเจ็บไม่มาก ประคองรถจอดไว้ได้

จะได้สอบสวนต่อไปว่านางเจตกัลยามีปัญหากับใครบ้างที่นำรถมาร่วมวิ่งรับส่งคนงาน รวมไปถึงคนนอกที่คิดจะเข้ามาฮุบกิจการด้วย เนื่องจากทราบว่ากิจการนี้มีผลประโยชน์แต่ละเดือนจำนวนมาก

พร้อมทั้งน.ส.รสาลูกสาว จากร.พ.พัฒนานิคม มารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ ในตัวเมืองลพบุรี ซึ่งมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยกว่า พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุ้มกัน เพื่อป้องกันคนร้ายมาตามซ้ำ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด