ฟันหัวทนายเสรี เย็บ8เข็ม อุกอาจศาลอาญา

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ร.ต.ท.ปรีชา หาสังข์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน. พหลโยธิน

รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายภายในศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางเข้าศาลอาญา ข้างป้อมรักษาความปลอดภัย พบกองเลือดสดๆ กระจายเต็มพื้นถนน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความส่วนตัวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกฟันที่ศีรษะด้านซ้าย 1 แผล และที่นิ้วก้อยข้างซ้ายอีก 1 แผล พลเมืองดีช่วยกันนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเมโย 

นายวีระศักดิ์ รัตนอาษา รปภ.ประจำป้อมรักษาการณ์ หน้าศาลอาญา ให้การว่า

ขณะปฏิบัติหน้าที่เห็นนายอนันตชัย เดินออกมาจากอาคารศาลอาญาตรงไปยังที่จอดรถ ปรากฏว่ามีชายอายุประมาณ 25-30 ปี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ผิวดำแดง ไว้ผมรองทรงสั้น สวมเสื้อยืดสีเขียวแขนสั้น กางเกงยีนส์สีดำ วิ่งออกมาจากลานจอดรถยนต์หน้าศาล ใช้มีดสปาตาร์ฟันศีรษะนายอนันตชัย 1 ครั้ง จนเจ้าตัวส่งเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แต่คนร้ายไม่สนใจเงื้อมีดฟันอีกครั้ง คราวนี้นายอนันตชัยยกมือซ้ายปิดป้อง คมมีดถูกที่มือซ้ายก่อนร่างจะร่วงทรุดลงกับพื้น ส่วนคนร้ายรีบวิ่งข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม หายเข้าไปในอาคารยูนิเวสต์ คอมเพล็กซ์ ข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม โดยมีเจ้าหน้าที่ รปภ.บางส่วน วิ่งตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด ส่วนตนพยุงร่างโชกเลือดของนายอนันตชัยส่งโรงพยาบาลเมโย
 

หลังทราบข้อมูล ร.ต.ท.ปรีชา หาสังข์ ได้ประสานกำลังสายตรวจ สน.พหลโยธิน 30 นาย และเจ้าหน้าที่ รปภ.ศาล 30 นาย พร้อมสุนัขตำรวจ เข้าปิดล้อมตรวจค้นแบบปูพรมบริเวณที่รกร้าง ข้างมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 

เป็นพื้นที่รกร้าง กว้างประมาณ 25-30 ไร่ มีต้นไม้ขึ้นรกชัฏ เจ้าหน้าที่ค้นหาราว 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบร่องรอยของคนร้าย ด้านนายอนันตชัย ทนายความเหยื่อมือมีด แพทย์โรงพยาบาลเมโย ต้องเย็บศีรษะด้านซ้าย 8 เข็ม รวมถึงดามนิ้วก้อยซ้ายที่หัก พร้อมพาไปเอกซเรย์สมอง แต่ไม่พบอาการผิดปกติ โดยนายอนันตชัยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังแพทย์ปฐมพยาบาลเรียบร้อยว่า ช่วงเช้าได้ไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยรับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือฟ้องร้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร. ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากนั้นช่วงบ่าย เดินทางไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนัดฟ้องคดี ป.ประตูน้ำ หรือนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ ในข้อหาหมิ่น ประมาทโดยการโฆษณา หลังนัดฟ้องเสร็จแล้ว เตรียมตัวไปพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เพื่อรายงานผลให้ทราบ แต่กลับถูกทำร้ายระหว่างไขกุญแจรถที่จอดอยู่ในลานจอดรถ

นายอนันตชัยกล่าวถึงสาเหตุที่ถูกทำร้ายครั้งนี้ว่า ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากเรื่องอะไร

แต่ตนระวังตัว และเก็บตัวมาโดยตลอด เนื่องจากทำคดีดังๆหลายคดี เช่น คดี เสธ.แดง คดี ป.ประตูน้ำ และคดีสุดท้ายคือคดีฟ้องร้อง พล.ต.อ.พัชรวาท ในส่วนตัวไม่เคยมีศัตรูหรือมีปัญหากับใคร แต่หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกย้ายไปช่วยราชการ มีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ตลอด ให้ย้ายสำนักงาน แต่ตนไม่สนใจ ทำงานไปตามปกติ และไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าบุกทำร้ายถึงในศาล อย่างไรก็ตาม  ตนไม่คิดถอนตัวจากคดีต่างๆที่ทำไว้ เพราะทั้งหมดทำด้วยใจ ไม่มีผลประโยชน์แต่อย่างใด ที่เป็นห่วงคือเรื่องครอบครัวมากกว่า เพราะยังมีลูกอีก 2 คน คนหนึ่งไม่สบาย ป่วยเป็นเบาหวานขั้นรุนแรง ส่วนอีกคนป่วยเป็นออทิสติก 

นางทิพย์พะยา ไชยเดช อายุ 38 ปี ภรรยานายอนันตชัย กล่าวเสริมว่า หลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ถูกย้าย มีคนโทรศัพท์ไปข่มขู่ที่บ้านตลอดเวลา บอกว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่ โทรศัพท์ขู่ทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง พยายามไม่สนใจ และบอกกลับไปว่า ขอบคุณ ส่วนสามีบอกว่าให้ทำตัวปกติ ไม่ใส่ใจอะไรจนกระทั่งมาเกิดเรื่อง

ก่อนหน้านี้เช้าวันเดียวกัน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายอนันตชัยรับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร. ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีวันที่ 29 ก.พ.มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อโจทก์ 3 เรื่อง ต่อมาโจทก์มีความประสงค์ตรวจสอบเอกสารเพื่อเป็นข้อมูลชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวน จึงทำหนังสือขอไปยังกองพลาธิการ แต่ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถให้ ข้อมูลได้ เนื่องจากจำเลยในฐานะผู้รักษาการแทน ผบ.ตร. มีคำสั่งตั้งคณะทำงานจัดเก็บเอกสาร มี พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐ์พงษ์ จตร. (สบ8) เป็นหัวหน้า การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต การเก็บเอกสารต่างๆ ตามคำสั่งของจำเลย ก่อนหน้าคณะกรรมการสอบสวนโจทก์จะเข้ามาตรวจสอบจึงเป็นการยักย้ายหรือเอาไปซึ่งเอกสารสำคัญ เพื่อชะลอการตรวจสอบของคณะกรรมการให้ช้าลง ส่งผลให้จำเลยปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนโจทก์นานขึ้น จนกระทั่งโจทก์เกษียณอายุราชการในปลายเดือน ก.ย. 51 ขอให้ศาลมีคำพิพากษาลงโทษเอาผิดทางอาญาแก่จำเลยด้วย ศาลรับประทับคำฟ้องพร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 2 มิ.ย.

พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน เผยว่า

ได้จัดส่งสายตรวจ 2 นาย ไปประจำอยู่หน้าห้องนายอนันตชัย ที่โรงพยาบาลเมโย หลังรับการประสานจากโรงพยาบาล และตัวนายอนันตชัยอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย ส่วนอาการผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นทราบว่าแพทย์ให้ พักรักษาดูอาการทางสมองอีก 1 คืน หากไม่มีอาการอะไร ในช่วงเช้าจะทำศัลยกรรมกระดูกนิ้วก้อยซ้ายที่หัก ก่อนอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ส่วนเรื่องคดี เนื่องจากนายอนันตชัยเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัด ได้ให้พนักงานสอบสวนนัด รปภ.และคนติดตามนายอนันตชัย พยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ไปสเกตช์ภาพคนร้ายอีกครั้งที่ สน.พหลโยธิน ในวันที่ 4 เม.ย.นี้