อีกแล้ว!!ตร.สน.ชนะสงคราม เมาซิ่งชนเจ้าหน้าที่ทำเนียบดับ

ส.ต.อ.โรงพักชนะสงคราม

เมาซิ่งเก๋งชนจนท.ทำเนียบ ขณะขี่จยย.ย้อนศรบนทางคู่ขนานลอยฟ้าดับ เจ้าตัวรับหลังออกเวรไปสังสรรค์กับเพื่อน งานเลี้ยงเลิกขี่เก๋งกลับถึงทางแยกลงตลิ่งชัน ผู้ตายขี่จยย.ย้อนศรเบรคไม่ทันพุ่งชนอย่างจัง ตร.แจ้งข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมจับวัดแอลกอฮอล์

(6ตค.) เวลา 04.00 น. พ.ต.ต.ณัฐนันท์ ม่วงงาม สารวัตรเวรสน.คู่ขนานลอยฟ้า

รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต บริเวณทางคู่ขนานลอยฟ้าขาออก ใกล้กับทางลงย่านตลิ่งชัน แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุบริเวณทางแยกลงย่านตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่พบศพนายสมชาติ สงวนวงศ์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้างานสารบรรณ ทำเนียบรัฐบาล อยู่บ้านเลขที่ 58/22 ตรอกข้างสน.วัดพระยาไกร แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.สภาพกระดูกแขนและขาหักมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ต้นขาข้างขวา สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ จากการตรวจสอบภายในตัวผู้เสียชีวิตพบเงินสด 5,000 บาท,โทรศัพท์มือถือ 1เครื่อง, บัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาลเลขที่ สลค. 50-51 และบัตรต่างๆอีกหลายรายการ
 
บริเวณใกล้กัน

เจ้าหน้าที่พบเศษชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์แตกกระจายตกอยู่เต็มถนน ห่างไปประมาณ 50 เมตรพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นเซ็นทรา สีแดง เลขทะเบียน กบ-7875 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณซ้ายของถนนสภาพรถด้านขวาพังยับเยิบจนล้อขวาหลุดออกมากระโปรงรถเปิดขึ้น กระจกรถบริเวณด้านหน้าและด้านข้างแตกละเอียด ใกล้กับพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน รบพ - 502 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกคว่ำบริเวณล้อหน้ายุบติดกับตัวเครื่องรถ ล้อหน้าบิดงอ

บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบ ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ พันธุบุตร ผบ.หมู่งานจราจร สน.ชนะสงคราม แต่งกายชุดตำรวจครึ่งท่อน สวมเสื้อยืดสีขาว ยืนอยู่ในอาการเมาสุรา โดยมีเพื่อนชายและหญิงยืนอยู่ 2 คน

จากการสอบสวน ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุตนได้เข้าเวรอยู่ที่สน.ชนะสงคราม จนถึงเวลา 21.00 น. ก็ได้ออกเวรจากนั้นจึงได้ไปนั่งกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนตำรวจด้วยกันภายในร้านอาหารในตรอกข้าวสาร ต่อมาเวลา 04.00 น. ตนจึงขอตัวกลับบ้านย่านบางบัวทอง โดยมีเพื่อนชายและหญิงขอติดรถยนต์กลับด้วย ซึ่งตนได้ขับรถยนต์ขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ก่อนจะขับมาทางถนนคู่ขนานลอยฟ้า โดยใช้ความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อ ชม.

"เมื่อขับรถมาถึงบริเวณทางแยกลงย่านตลิ่งชันผมพยายามขับรถเบี่ยงมาทางเลนขวาของถนน เนื่องจากอีกด้านซ้ายเป็นทางลงไปตลิ่งชันจังหวะนั้นผมเห็นรถจักรยานยนต์ขับย้อนศรมาทางเลนขวาของถนน ซึ่งรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพยายามที่จะกลับรถลงทางแยกลงย่านตลิ่งชัน ตอนนั้นไม่สามารถจะเบรครถได้แล้วจึงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนายสมชาติ เสียชีวิตดังกล่าว"ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ กล่าว

ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ ให้การต่อว่า
 
สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดเหตุตนไม่ได้ตั้งใจแต่ขณะนั้นไม่สามารถเบรคและหักรถยนต์หลบได้ จึงได้ขับรถชนดังกล่าว ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังไม่ต้องการให้ผู้ตายมาถือโทษโกรธแค้นอะไรตนเลย

จากการสอบสวน นายเล็ก ด้วงสังข์ อายุ 28 ปี
 
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุดบางพลัด และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์ของมูลนิธิมาทางถนนคู่ขนานลอยฟ้าขาเข้า เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุตนเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศรมาทางถนนคู่นานลอยฟ้าขาออก ตนจึงพยายามที่จะเตือนผู้ตายให้จอดรถและอย่าขับรถย้อนศร โดยขณะนั้นผู้ตายได้พยายามขับรถวนลงทางแยกลงย่านตลิ่งชัน ก่อนที่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจะชนกับรถยนต์ของ ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ ที่ขับมาทางถนนคู่ขนานลอยฟ้าขาออก

ต่อมานายนพรัตน์ หรือหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน กล่าวว่า

ผู้ตายเป็นเพื่อนกับตนสมัยเรียนอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตพาณิชยการพระนคร โดยผู้ตายได้พักอาศัยอยู่กับบิดามารดาใน จ.นครปฐม นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน นี้ ผู้ตายต้องเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรด้วย ตอนนี้ตนพยายามจะติดต่อบิดามารดาของผู้ตายให้มารับศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
 
หลังจากที่ ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้น ทางส.ต.อ.อภิเชษฐ์ ได้เดินไปที่ศพของนายสมชาติ จากนั้นได้ก้มลงกราบที่บริเวณศีรษะ พร้อมกับพูดว่าขออโหสิกรรมให้กับตนด้วย ตนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ

ด้าน พ.ต.ต.ณัฐนันท์ กล่าวว่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับทาง ส.ต.อ.อภิเชษฐ์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวส.ต.อ.อภิเชษฐ์ ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ หากการตรวจสอบพบว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็จะมีแจ้งข้อหาขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุราต่อไป ส่วนนายสมชาติ ได้เสียชีวิตไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถเอาผิดในข้อหาขับรถฝ่าฝืนกฎจราจรได้