โจรอ้วนผอมชิงทรัพย์ผจก.เทเวศน์ประกันภัยได้ไปร่วม2แสนบ.

อุกอาจ 2 โจรอ้วน-ผอม กระชากกระเป๋า ผจก.บริษัทประกันภัย

ได้ทรัพย์สินทั้งทองรูปพรรณ-เงินสดร่วม 200,000 บาท ขณะยืนคุยกับเพื่อนหน้าร้านทำผมย่านราชดำเนิน เจ้าตัวระบุตั้งใจมาทำผมก่อนไปงานสัมมนา ตร.เตรียมสเก็ตซ์ภาพคนร้าย พร้อมส่งสายสืบติดตาม

เมื่อเวลา 06.15 น.วันที่ 7 กันยายน

พ.ต.ท.ศิริพงศ์ ประมวลมา พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์ภายในซอยราชดำเนินใต้ หน้าร้านเสริมสวยเกษร เลขที่ 184/3 ซอยราชดำเนินใต้ แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบน.ส.จินตนา วงศ์ตระหง่าน อายุ 47 ปี

ผู้จัดการสเวนสรรหาและฝึกอบรม ฝ่ายบุคคล บริษัทเทเวศร์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้เสียหาย อยู่บ้านเลขที่ 352/132 ถ.กรุงเทพ-นนท์ ซอยเสมานิรมิต 36 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ระบุว่า

วันนี้ประมาณเวลา 05.00 น. ตนได้ออกจากบ้าน โดยตั้งใจจะมาที่ร้านเสริมสวยเพื่อทำผม ก่อนเดินทางไปร่วมงานสัมมนาที่ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมาถึงหน้าร้านเสริมสวยช่วงเวลาประมาณ 05.45 น. ระหว่างนั้นได้ยืนคุยกับเพื่อนที่หน้าร้านทำผมดังกล่าวโดยไม่ทันได้ระวังตัว จู่ๆได้มีคนร้ายสองคนเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงเข้ามาใกล้ตัว โดยคนที่ซ้อนท้ายที่มีลักษณะอ้วน ตัดผมรองทรง สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา ทำหน้าที่กระชากกระเป๋า หลังจากนั้นคนขับที่มีลักษณะผอม จำลักษณะการแต่งกายไม่ได้ รีบขี่รถหนีไปอย่างรวดเร็ว

ฉันจำรูปพรรณของคนกระชากกระเป๋าจำได้อย่างแม่นยำ

เพราะหลังจากกระชากกระเป๋าแล้วเขายังหันมามองหน้าฉัน ส่วนคนขับฉันจำหน้าไม่ได้เลย น.ส.จินตนา กล่าว

จากการสอบถามแม่ค้าที่ตั้งร้านขายของอยู่ภายในซอยดังกล่าว ระบุว่า

ก่อนเกิดเหตุเห็นชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีแดง ไม่ทราบทะเบียน รุ่นและยี่ห้อ โดยขี่มุ่งหน้ามาจากปากซอยราชดำเนินใต้ ทางร้านอาหารศรแดง พอมาถึงหน้าร้านเสริมสวยได้ทำการกระชากกระเป๋าเหยื่อ ที่กำลังจะเข้าไปทำผมที่ร้านเสริมสวย ก่อนจะขี่รถหลบหนีไปทางปากซอยวัดราชลัดดา
 

ขณะที่ พ.ต.ท.ศิริพงศ์ กล่าวว่า

จากการสอบสวนทราบรูปพรรณของผู้ก่อเหตุว่ามีคนซ้อนท้ายที่กระชากกระเป๋ามีลักษณะอ้วน ส่วนคนขับขี่มีลักษณะผอม ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ แบบผู้หญิง สีแดง เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น, เหรียญ ร.5 เลี่ยมทอง 1 องค์, แหวนเพชร 2 วง และเงินสดประมาณ 50,000 บาท เอกสารบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็ม รวมมูลค่าเกือบ 200,000 บาท ซึ่งบัตรเครดิตนั้นถ้ารู้รหัสจะสามารถกดเงินได้ทันที 100,000 ต่อ 1 ครั้ง หลังเกิดเหตุเเจ้าของได้ติดต่ออายัดไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามจะประสานชุดสืบสวนติดตามหาตัวคนร้าย และนำผู้เสียหายไปสเก็ตซ์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์