ตร.โคราช รวบ2 ผัวเมีย หลังวงจรปิดจับภาพตระเวนลักทรัพย์ รับทำมานานกว่า 10 ปี ระบุลงมือลักทรัพย์แล้วแต่อารมณ์ หากวันไหนอารมณ์ดีก็ทำหลายครั้ง
วันนี้ (26 ม.ค. 58) เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจตรี เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ปกรณ์ เสริมสุวรรณ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พันตำรวจโท ภูมิ ทองโพธิ์ รองผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องคดีลักทรัพย์ ได้ผู้ต้องรวม 2 คน
คือ นางสาวจุฑารัตน์ ฮึกขุนทด อายุ 31 ปี และนายประสิทธิ์ อิศระภักดี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน พร้อมของกลางทรัพย์สินที่ขโมยมาจำนวน 172 รายการ อาทิ พระเครื่อง เครื่องประดับ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าถือ บัตรเอทีเอ็ม และตั๋วจำนำจำนวนมาก
คือ นางสาวจุฑารัตน์ ฮึกขุนทด อายุ 31 ปี และนายประสิทธิ์ อิศระภักดี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน พร้อมของกลางทรัพย์สินที่ขโมยมาจำนวน 172 รายการ อาทิ พระเครื่อง เครื่องประดับ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าถือ บัตรเอทีเอ็ม และตั๋วจำนำจำนวนมาก
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3
ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนมีพฤติกรรมเที่ยวตระเวนลักทรัพย์ และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพักไม่มีชื่อ ในซอยเบญจรงค์ 8/2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองเช่าพักอาศัยอยู่ และจากการตรวจค้นพบทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหายที่ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์มาเป็นจำนวนมากอยู่ภายในห้องพัก
ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนมีพฤติกรรมเที่ยวตระเวนลักทรัพย์ และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพักไม่มีชื่อ ในซอยเบญจรงค์ 8/2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองเช่าพักอาศัยอยู่ และจากการตรวจค้นพบทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหายที่ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์มาเป็นจำนวนมากอยู่ภายในห้องพัก
จากการสอบสวนนางสาวจุฑารัตน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาหลายพื้นที่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี กรุงเทพฯ และนครราชสีมา ซึ่งทุกวันตนจะขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ แล้วแต่อารมณ์ ถ้าวันไหนตนอารมณ์ดีก็จะก่อเหตุหลายครั้ง โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าของบ้านเผลอแอบเข้าไปลักทรัพย์สิน หรือบางครั้งตนก็แอบไปเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านของผู้เสียหายทั้งคืน
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี กรุงเทพฯ และนครราชสีมา ซึ่งทุกวันตนจะขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ แล้วแต่อารมณ์ ถ้าวันไหนตนอารมณ์ดีก็จะก่อเหตุหลายครั้ง โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าของบ้านเผลอแอบเข้าไปลักทรัพย์สิน หรือบางครั้งตนก็แอบไปเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านของผู้เสียหายทั้งคืน
จนกระทั่งเช้าผู้เสียหายออกจากบ้านไปทำงานตนจึงลงมือรื้อค้นหาทรัพย์สิน
โดยทรัพย์สินที่ได้ตนจะนำไปให้นายประสิทธิ์สามีนำทรัพย์สินที่ลักทรัพย์มาไปจำหน่าย ซึ่งตนเคยลักทรัพย์ได้ทรัพย์สินมากสุดถึงครั้งละ 3 แสนบาท โดยยอมรับว่าก่อเหตุมาแล้วทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1,000 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 11 ปีตั้งแต่ที่ลงมือก่อเหตุมา
โดยทรัพย์สินที่ได้ตนจะนำไปให้นายประสิทธิ์สามีนำทรัพย์สินที่ลักทรัพย์มาไปจำหน่าย ซึ่งตนเคยลักทรัพย์ได้ทรัพย์สินมากสุดถึงครั้งละ 3 แสนบาท โดยยอมรับว่าก่อเหตุมาแล้วทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1,000 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 11 ปีตั้งแต่ที่ลงมือก่อเหตุมา
ทั้งนี้จากการสอบประวัติของนางสาวจุฑารัตน์เคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์มาแล้วในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเมื่อปี 2546
และถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน ซึ่งพอหลังจากพ้นโทษมาก็ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ และหาเลี้ยงชีพด้วยการตระเวนลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น และรับของโจร พร้อมกับอายัดตัวดำเนินคดีในคดีค้างเก่าที่เคยมีเจ้าทุกข์มาแจ้งความไว้อีกจำนวนมาก
และถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน ซึ่งพอหลังจากพ้นโทษมาก็ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ และหาเลี้ยงชีพด้วยการตระเวนลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น และรับของโจร พร้อมกับอายัดตัวดำเนินคดีในคดีค้างเก่าที่เคยมีเจ้าทุกข์มาแจ้งความไว้อีกจำนวนมาก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
