ทุบกะโหลกนักวิชาการเกษตร ชิงทรัพย์สร้อย5บาท-รถยนต์

คนร้ายทุบกะโหลกนักวิชาการเกษตร ระดับ 6 ดับพร้อมชิงสร้อย 5 บาทและทรัพย์สินขณะนั่งทำงานในอู่พ่นสีรถ แถมขับรถยนต์ผู้ตายเชิดหนี เมียพ้อทำไมต้องฆ่า ตำรวจเชื่อฆ่าชิงทรัพย์

เหตุข้าราชการที่หันมาประกอบอาชีพเสริม

เป็นเจ้าของอู่เคาะพ่นสีรถถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบศรีษะจนเสียชีวิตและชิงทรัพย์พร้อมรถยนต์หลบหนีไปครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 27 พฤษภาคม ร.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ร้อยเวร สภ.อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

รับแจ้งพบศพชายบริเวณหลังอู่เคาะพ่นสี ชัยประสิทธิ์

หมู่ 1 ริมถนนสายระยอง-บ้านค่าย ต.หนองตะพาน อ.บ้านค้าย จึงรายงาน พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง และเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลบ้านค่าย ไปตรวจสอบ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย

ตกอยู่ใต้โต๊ะทำงาน 2 เครื่อง และที่พื้นในอู่รถ พบรอยเลือดลากเป็นทางไปด้านหลังอู่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เดินไปตามรอยเลือด ก็พบศพนายชัยสิทธิ์ รุ่งรัศมีวิริยะ อายุ 42 ปี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรเขต 3 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง

นอนเสียชีวิตโดยตรวจสอบพบว่า

ถูกตีด้วยของแข็งบริเวณหน้าผากและศีรษะด้านขวา บาดแผลฉีกขาดยาว 6 ซม. ลึกถึงกะโหลกศีรษะ ส่วนทรัพย์สินที่หายไป เบื้องต้นพบว่าประกอบด้วยสร้อยคอหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ รวมทั้งรถยนต์กระบะโตโยต้า สีดำของผู้ตาย ่คาดว่าคนร้ายใช้ขับหลบหนีไป และไม่ไกลจากจุดที่พบศพ ตำรวจพบเก้าอี้ไม้มีรอยคราบเลือดทิ้งอยู่นอกรั้ว 1 ตัว

นางสุจิตรา รุ่งรัศมีวิริยะ อายุ 39 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 141/18 หมู่ 2 ต.เนินพระ อ.บ้านค่าย ภรรยาผู้ตาย ให้การว่านายชัยสิทธิ์ สามีรับราชการที่สำนักงานการส่งเสริมการเกษตรเขต 3 และประกอบอาชีพเสริมโดยเปิดอู่เคาะพ่นสีรถยนต์เมื่อประมาณ 1 ปีเศษ ก่อนเกิดเหตุ สามีได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บจ 8177 ระยอง

ออกจากบ้านพักไปเมื่อเวลา 08.20 น.วันเดียวกัน

โดยตนนั่งมาด้วยกันและมาส่งที่หมู่บ้านเกาะกลอย จากนั้นสามีก็ขับรถยนต์ไปดูกิจการที่อู่ เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ไม่มีช่างมาทำงาน โดยสามีใส่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ติดตัวไปด้วย

"สามีไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร เป็นคนที่ชาวบ้านรักใคร่ เป็นคนทำมาหากินสุจริต ทำไมต้องมาถูกฆ่าตาย เอาทรัพย์สินไปทำไมต้องฆ่าด้วย" นางสุจิตรา กล่าวทั้งน้ำตา

นายสม (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้เคียงอู่เคาะพ่นสีกล่าวว่า

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันเดียวกัน ตนสังเกตุเห็นชายแปลกหน้าสูงประมาณ 170 ซม. ใส่เสื้อลาย นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ยืนโทรศัพท์หลังอู่ใกล้ที่พบศพ ไม่แน่ใจว่าเป็นคนร้ายหรือไม่

ส่วนนางจรุณี พรพลทอง พนักงานเสิร์ฟ

ร้านเรือนเพลงบ้านค่าย อยู่ตรงข้ามอู่ชัยประสิทธิ์ เปิดเผยเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนหน้าที่ผู้ตายจะเสียชีวิต ก็ได้มากับเพื่อน 2 คนมานั่งร้องเพลงคาราโอเกะที่ร้านเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้ใส่สร้อยคอทองคำ ห้อยพระเลี่ยมทอง และใส่เลสข้อมือทองคำเข้าไปในร้านด้วย หลังจากร้านปิด ผู้ตายก็ได้กลับบ้าน มาทราบอีกทีว่าผู้ตายได้เสียชีวิตแล้ว


พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง

ซึ่งเดินทางไปไปดูที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในเบื้องต้นน่าจะเป็นฆ่าชิงทรัพย์ โดยผู้ตายถูกตีด้วยของแข็งที่หน้าผากและศีรษะขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจนตกจากเก้าอี้ และเมื่อเสียชีวิต คนร้ายก็ลากศพไปทิ้งด้านหลังอู่

พร้อมกับค้นทรัพย์สินในตัวผู้ตายก่อนชิงสร้อยคอหนัก 5 บาท

พระเลี่ยมทอง 1 องค์ พร้อมขับรถยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย ซึ่งตนได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุด เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก