แห่กลับหนีรถติด4วันสังเวย236เจ็บ3พันขอนแก่นยอดตายสูงสุด

คม-ชัด-ลึก

15 เมษายน 2550 22:37 น.
สงกรานต์ 4 วัน ตายแล้ว 236 คน "ขอนแก่น" ดับแล้ว 14 ศพ ครองแชมป์ยอดคนตาย รองมาเป็นพิษณุโลก 13 คน

ขณะที่ประจวบคีรีขันธ์ พ่อค้าอาหารตามสั่งขี่จักรยานยนต์ถูกเก๋งชนตายเป็นรายแรกของจังหวัด สงขลาตายแล้ว 6 นครศรี 7 ส่วนตรังยอดเกินเป้า ขณะสงกรานต์โคราชส่งท้ายยังคึกคัก ส่วนประชาชนเริ่มทยอยกลับทำงานที่กรุงเทพฯ ก่อนกำหนดเพื่อหนีรถติด

เทศกาลสงกรานต์ที่เรื่องอุบัติเหตุกลายเป็นปัญหาระดับประเทศที่ต้องมีการเฝ้าระวัง แต่ดูเหมือนว่าการป้องกันต่างๆ ของภาครัฐจะยังไม่ได้ผล เนื่องจากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการเล่นสงกรานต์บนท้องถนนยังมีอย่างต่อเนื่องและไม่ลดลงมากนัก

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้สรุปยอดอุบัติเหตุในช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ระบุว่า ในวันที่สี่ของการเฝ้าระวังคือ วันที่ 14 เมษายน มียอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 4 วัน รวม 236 คน บาดเจ็บ 3,182 คน ซึ่งวันที่ 14 เมษายน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 789 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 67 คน บาดเจ็บ 886 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น พบว่าเกิดจากเมาสุราเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด และขับรถตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ รองลงมาเป็นรถกระบะ และอุบัติเหตุส่วนใหญ่พบว่าเกิดในช่วงทางตรงของถนนนอกเขตทางหลวงแผ่นดิน และช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ช่วงเวลากลางคืน เวลา 16.00-20.00 น. ขณะที่จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ ร้อยเอ็ด และขอนแก่น

ขอนแก่นดับ 14 ศพ

นางสุพรรัตน์ แสงมาลี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11-14 เมษายน จ.ขอนแก่น มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน ซึ่งวันที่ 14 เมษายน มีผู้เสียชีวิต 5 คน คือ 1.นายนวลจันทร์ บัวแสง อายุ 39 ปี ชาว ต.กุดเพียขอม อ.ชนบท สาเหตุมาจากขี่รถจักรยานยนต์ชนโค 2.นายประครอง เดชพละ อายุ 23 ปี ชาว ต.ไชยสอ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สาเหตุเกิดจากขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถปิกอัพโดยไม่สวมหมวกนิรภัย

3.นายอดิศพ ธนาทิพย์ อายุ 30 ปี ชาว ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ ขับรถปิกอัพตกคลองชลประทาน 4.ด.ช.พสินธ์ มาตย์มูล อายุ 2 ขวบ ชาว ต.หนองโก อ.กระนวน ถูกรถปิกอัพเฉี่ยวชน และ 5.น.ส.ดวงสุดารัตน์ ครยก อายุ 22 ปี ชาว ต.คำแมด กิ่ง อ.ซำสูง ขับรถปิกอัพชนเสาไฟฟ้า

นางสุพรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ จ.ขอนแก่น ได้ประชุมร่วมกับทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในขณะนี้ โดยในช่วงขาล่องจากภาคอีสานสู่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำมาตรการขั้นเฉียบขาดมาใช้ หากพบว่ากระทำผิดกฎหมายก็จะส่งดำเนินคดีทันที

ที่ผ่านมา แม้ว่าทางหน่วยงานภาครัฐจะนำมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. มาใช้อย่างเข้มงวดก็ตาม แต่ยอมรับว่าการเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน อาทิ ขับรถตกคลองน้ำ ขับรถชนวัว เป็นต้น ซึ่งยากที่จะเข้าไปควบคุม ดังนั้นจึงอยากฝากผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวัง ขณะเดียวกัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ได้สั่งการเพิ่มเติม โดยให้มีการกวดจับมากขึ้น เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ นางสุพรรัตน์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ชำนาญ คนไว สารวัตรฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ผู้ว่าฯ ขอนแก่นได้กำชับให้เพิ่มมาตรการในการตรวจจับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจาจร อาทิ ไม่สวมหมวกนิรภัย เมาสุราขณะขับรถ หรือไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยในช่วงขาล่องเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเข้มงวดมากขึ้นและใช้โทษปรับสูงสุดและส่งดำเนินคดี พร้อมกำชับให้ตำรวจทางหลางเพิ่มการจับกุมความเร็ว เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เพราะแม้อุบัติเหตุส่วนใหญ่จะไม่ได้เกิดบนถนนสายหลัก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามอำนวจหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย

ประจวบฯ สังเวยศพแรก

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 15 เมษายน พ.ต.ท.เอนกชาติ นงนุช สารวัตรเวร สภ.อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต บนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 385-386 หมู่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จึงรุดไปตรวจสอบ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายจำลอง เพชรคงแก้ว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่ 7 ต.ช้างแรก สภาพศพศีรษะยุบ ขาขวาหัก และห่างจากศพประมาณ 10 เมตร พบรถเก๋งโตโยต้า สีเขียว ทะเบียน กข 2970 ชุมพร สภาพรถด้านหน้ายุบ หม้อน้ำแตก และที่ร่องกลางถนนพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับเยิน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายจำลองผู้เสียชีวิตประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่ง ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวข้ามถนนไปซื้ออาหารเพื่อจะขายในวันต่อไป และขณะข้ามถนนก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าว ซึ่งขับโดยนายสุริยา กลิ่นภุมเรศ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร พุ่งชนจนเสียชีวิต และเป็นอุบัติเหตุรายแรกของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงสงกรานต์

สงขลาตายแล้ว 6

ที่ จ.สงขลา นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2550 จ.สงขลา ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดร่วมจากหลายหน่วยงาน รวมจำนวน 38 จุด ใน 16 อำเภอ ซึ่งปรากฏว่าระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 64 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นผู้ชาย 5 คน เป็นผู้หญิง 1 คน บาดเจ็บ 70 คน

ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 60 คัน ในเส้นทางถนนสายรอง ภายในหมู่บ้าน และถนนสายหลัก ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บของ จ.สงขลา ปี 2550 กับปี 2549 ในวันและเวลาเดียวกัน คือช่วง 4 วัน ระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน 2549 มีผู้เสียชีวิต 8 คน ปี 2550 มีผู้เสียชีวิต 6 คน ลดลง 2 คน ผู้บาดเจ็บปี 2549 มี 16 คน ปี 2550 ผู้บาดเจ็บมี 70 คน เพิ่มขึ้น 54 คน อุบัติเหตุปี 2549 มี 13 ครั้ง ปี 2550 เกิดอุบัติเหตุ 64 ครั้ง เพิ่มขึ้น 51 ครั้ง

"สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ในขณะเมาสุราและขับรถด้วยความเร็วสูง จ.สงขลา ได้ตั้งเป้าการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2550 ซึ่งเป็น 7 วันอันตราย มีผู้เสียชีวิตไม่เกิน 9 คน บาดเจ็บไม่เกิน 106 คน และการเกิดอุบัติเหตุไม่เกิน 94 ครั้ง" นายวิจิตร กล่าว

เมืองคอนสังเวยสงกรานต์แล้ว 7 ศพ

นางเพ็ญศรี แก้วคุมภัย ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการสรุปยอดผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุรวมแล้ว 7 คน มีผู้บาดเจ็บ 61 คน โดยรายล่าสุดเกิดขึ้นที่ อ.ท่าศาลา บริเวณถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี รถกระบะนิสสัน ทะเบียน ปผน 2468 กรุงเทพมหานคร บรรทุกคนมาเต็มคันรถชนกับรถบรรทุกหกล้อ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 12 คน เสียชีวิต 2 คน คือ นางสุจินต์ โสนรรถ อายุ 52 ปี และนางพฤษฎา หนูเนียม อายุ 33 ปี เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากผู้ขับขี่ขับรถโดยประมาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 14 เมษายน งานเทศกาลมหาสงกรานต์นครศรีธรรมราช ได้จัดพิธีบวงสรวงพระอิศวร และทำพิธีแห่นางดานโล้ชิงช้า โดยมีการตั้งปะรำพิธีที่หน้าศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังหอพระอิศวร ริมถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง โดยตลอดพิธีได้ตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อจุดคบไต้ให้แสงสว่างตลอดเส้นทาง ทำให้บรรยากาศสุดอลังการ และถือว่าเป็นพิธีกรรมที่มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย จากนั้นมีการแสดงแสงสีเสียงอย่างยิ่งใหญ่ย้อนรอยอดีต ก่อนจะมีการจุดพลุประกอบแสงสีเสียงอย่างงดงาม

ตรังตาย-เจ็บเกินเป้า

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 จ.ตรัง ได้สรุปผลการดำเนินงานในช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งปรากฏว่า วันที่ 11-14 เมษายน พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 76 ครั้ง สูงกว่าเป้าที่กำหนดไว้ ที่จะต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่เกิน 49 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน สูงกว่าเป้าที่กำหนดไว้ว่า จะมีผู้เสียชีวิตไม่เกิน 4 คน และมีผู้บาดเจ็บแล้ว 80 คน แยกเป็นเพศชาย 62 คน เพศหญิง 18 คน สูงกว่าเป้าที่กำหนดไว้ คือ จะต้องมีผู้บาดเจ็บไม่เกิน 55 คน

พื้นที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดของ จ.ตรัง คือ อ.เมือง 36 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บ 39 คน รองลงมาคือ อ.ห้วยยอด เกิดอุบัติเหตุ 9 ครั้ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 10 คน อ.กันตัง เกิดอุบัติเหตุ 8 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 8 คน อ.ย่านตาขาว เกิดอุบัติเหตุ 6 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 7 คน อ.สิเกา เกิดอุบัติเหตุ 5 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บ 4 คน อ.วังวิเศษ เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บ 4 คน อ.รัษฎา เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4 คน อ.ปะเหลียน เกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3 คน อ.นาโยง เกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1 คน ยกเว้น อ.หาดสำราญ ซึ่งยังไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ทั้งนี้ มีสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงมาจากการไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด ร้อยละ 45.73 รองลงมาคือ เมาสุรา ร้อยละ 20.93 และไม่มีใบขับขี่ ร้อยละ 6.20 ส่วนประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.50 รองลงมาคือ รถกระบะ ร้อยละ 12.50 และรถเก๋ง ร้อยละ 2.50 ในขณะที่ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ถนนกรมทางหลวงชนบท ร้อยละ 23.68 รองลงมา คือ ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 22.36 ถนนในเมือง/เขตเทศบาล ร้อยละ 13.15 มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. รวมแล้ว 771 ราย มากที่สุดคือ ข้อหาไม่มีใบขับขี่ 395 ราย ข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย 231 ราย ข้อหาขี่จักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 111 ราย ข้อหาไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 18 ราย และข้อหาเมาสุรา 16 ราย ยกเว้นข้อหาความเร็วเกินกำหนด ซึ่งยังไม่มีผู้ถูกดำเนินคดี

เชียงใหม่ตายแล้ว 11

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 เมษายน พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร. ได้ไปตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการและลดอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ 2550 ของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมออกตรวจการปฏิบัติงานที่ด่านตรวจ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และรับทราบว่า อุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือ 7 วันอันตรายใน จ.เชียงใหม่ ถึงวันที่ 15 เมษายน มียอดผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 3 รองจาก จ.ขอนแก่น และ จ.พิษณุโลก คือ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้วรวม 11 คน บาดเจ็บ 78 คน และเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้นรวม 82 ครั้ง และจับกุมผู้เมาแล้วขับได้ 172 ราย

"การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเมาสุรามีเพียง 1 รายเท่านั้น เนื่องจากตำรวจเชียงใหม่ได้ร่วมมือกับสรรพสามิตและฝ่ายปกครองเข้าดำเนินการเข้มงวดในการตรวจจับร้านจำหน่ายสุราและเหล้าตอง จากปีก่อนที่มีมากถึง 2 หมื่นร้าน ล่าสุดปีนี้ลดลงเหลือประมาณ 6,000 ราย และอุบัติเหตุส่วนใหญ่พบว่าเกิดขึ้นในถนนสายรอง เป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยเป็นส่วนใหญ่" ผช.ผบ.ตร.กล่าว

ทางหลวงเชียงใหม่โวยถนนสายรอง

นายสมบูรณ์ ชัยศิรินิรันดร์ ทางหลวงชนบท จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีมักมีอุบัติเหตุการจราจรเกิดขึ้นเป็นประจำทั้งถนนสายหลักและถนนสายรองในเขตชุมชน โดยเฉพาะถนนสายรองถือเป็นจุดเสี่ยงที่มีสถิติอุบัติเหตุการจราจรเกิดขึ้นสูงไม่แพ้ถนนสายหลักๆ ปัจจุบันมีถนนสายรองในเขตชุมชน-หมู่บ้านอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานทางหลวงชนบท จ.เชียงใหม่ รวมระยะทางเพียง 400 กม. อีก 2,000 กม.อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

"ต้องยอมรับว่าถนนที่อยู่ในความดูแลของท้องถิ่นยังมีปัญหาด้านความปลอดภัยด้วยปัจจัยเรื่องงบประมาณ รวมทั้งขีดจำกัดของท้องถิ่นเอง แม้ที่ผ่านมาทางหลวงชนบทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้เรื่องการสร้างและซ่อมทาง จัดวิทยากรเข้าไปอบรมเจ้าหน้าที่ระดับช่างเรื่องการก่อสร้างและซ่อมแซมเส้นทางตามหลักวิศวกรรม การวางแผนก่อสร้าง การจัดลำดับความสำคัญของเส้นทาง โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยที่ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษในเส้นทางร่วมหรือทางแยก ต้องมีการติดตั้งป้ายจราจรเพื่อเตือนประชาชนทุกจุด" ทางหลวงชนบท จ.เชียงใหม่ กล่าว

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า วินัยของคนก็เป็นสิ่งสำคัญและเป็นองค์ประกอบหลักที่จะทำให้สถิติอุบัติเหตุลดลงได้ หากสามารถรณรงค์และสร้างจิตสำนึกให้คนตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองแล้ว ยังสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติด้วย ดังนั้นการสร้างจิตสำนึกอาจต้องเริ่มที่เยาวชนโดยบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอน ส่วนการตั้งจุดตรวจที่ดำเนินการกันทุกปีในช่วงเทศกาล ก็ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นจุดให้บริการและช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น เช่น กรณีรถเสีย หลงทาง ฯลฯ ส่วนท้องถิ่นเองควรมีการตั้งจุดตรวจในชุมชนหรือหมู่บ้านของตน ซึ่งนอกจากจะให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไป-มา ยังสกัดคนเมาไม่ให้ออกนอกพื้นที่ด้วย

โจ๋พิษณุโลกซิ่งจยย.ดับ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 15 เมษายน พ.ต.ท.ตุลวุฒิ วิมาลา สารวัตรเวร สภ.อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก หมู่ 12 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง และหน่วยกู้ภัยบูรพา พบศพ ด.ช.โชคอนันต์ มั่นชาวนา อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 781 หมู่ 7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ หมายเลขทะเบียน กลก -261 พิษณุโลก ล้มอยู่ สาเหตุทราบว่า หลังจาก ด.ช.โชคอนันต์ขี่รถจักรยานยนต์ไปเล่นสงกรานต์ในตัวเมืองพิษณุโลก ระหว่างทางมีฝนตกหนักจนรถจักรยานยนต์เสียหลักลื่นไถลไปพุ่งชนกับต้นไม้ข้างทาง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

อีกรายเมื่อเวลา 01.00 น. พ.ต.ท.จำเริญ ศรีสังข์ สารวัตรเวร สภ.อ.วังทอง รับแจ้งมีอุบัติเหตุชนรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตบนถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก กม.ที่ 39-40 หมู่ 2 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง และหน่วยกู้ภัยบูรพา พบศพ น.ส.วรรณ ภานุรัตน์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/30 หมู่ 5 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นอนเสียชีวิตจมกองเลือด หลังขี่รถจักรยานยนต์ข้ามเลนไปชนรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 9 ฒ 7646 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพัง โดยมีนายสมพร สารบุญ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 7 ต.เขลาใหญ่ อ.กันทรพิชัย จ.มหาสารคาม เป็นผู้ขับ

สถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ของ จ.พิษณุโลก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 84 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 85 ราย และมีผู้เสียชีวิต 13 ราย

ชาวอีสานเริ่มทยอยกลับกรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเล่นสงกรานต์วันสุดท้าย (15 เม.ย.) ที่ จ.นครราชสีมา ยังคงคึกคัก ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เต็มไปด้วยรถยนต์และประชาชนที่เดินทางเข้ามาเล่นสงกรานต์ ทั้งถนนจอมสุรางค์ ถนนโพธิ์กลาง ถนนสุรนารี และถนนราชดำเนิน ส่งผลให้การจราจรในเขตตัวเมืองนครราชสีมาติดขัดยาวเหยียด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการเปิดเสียงเพลงดังกระหึ่มพร้อมกับเต้นรำกันตลอดทุกเส้นทางอย่างสนุกสนาน และมีการกระทบกระทั่งจากกลุ่มวัยรุ่นกันบ้าง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

การจราจรบนถนนมิตรภาพตั้งแต่ จ.อุดรธานี-ขอนแก่น-นครราชสีมา จนถึง จ.สระบุรี เริ่มมีปริมาณรถยนต์หนาแน่น เนื่องจากประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร เพราะไม่อยากเจอกับปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากว่าหากเดินทางกลับในวันที่ 16 เมษายน จะมีปริมาณรถยนต์และประชาชนจำนวนมากที่เดินทางกลับเช่นกัน ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

ส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพมหานครของประชาชนชาวภาคอีสาน หลังจากกลับภูมิลำเนาไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 ก็เริ่มมีประชาชนทยอยมารอซื้อตั๋วเพื่อจะขึ้นรถโดยสารกลับไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้สถานีขนส่งเริ่มหนาแน่นไปด้วยประชาชน เจ้าหน้าที่ต้องนำเต็นท์ขนาดใหญ่และน้ำดื่มมาให้บริการผู้โดยสารที่มารอรถ ตลอดทั้งวันมีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 จำนวนกว่า 10 นายคอยตรวจตรารักษาความปลอดภัยทั่วสถานีขนส่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ขนส่งยืนยันว่าไม่เกินเวลา 24.00 น.ของทุกวัน ทางสถานีขนส่งจะสามารถระบายผู้โดยสารออกได้หมดโดยไม่มีตกค้างแต่อย่างใด

สงกรานต์ถนนข้าวเหนียวยังคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้ายที่ถนนข้าวเหนียว อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่าตลอดวันที่ 15 เมษายน ยังคงคึกคัก มีประชาชนทยอยเดินทางเข้าไปเล่นน้ำอย่างต่อเนื่อง มีกลุ่มวัยรุ่นร่วมสนุกตามเวทีต่างๆ เต็มพื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน มีการเต้นโชว์ตามเวทีต่างๆ แต่ไม่มีใครใส่เสื้อผ้า นุ่งน้อย ห่มน้อย หรือเต้นแบบโคโยตี้ ขณะที่ถนนเส้นต่างๆ ภายในตัวเมืองทั้งถนนหน้าเมือง หลังเมือง และถนนรอบบึงแก่นนคร มีประชาชนนำถังน้ำขึ้นใส่หลังรถกระบะเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทำให้การจราจรติดบ้างในบางจุด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถระบายรถไปได้ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะที่บริเวณถนนรอบบึงแก่นนคร เจ้าหน้าที่ต้องแก้ปัญหาโดยการให้รถวิ่งทางเดียวเพื่อลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวว่า ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน ที่ผ่านมา จ.ขอนแก่น มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตค่อนข้างสูง เนื่องจากเมาแล้วขับ และกว่าร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิต ไม่สวมหมวกกันน็อก

สงกรานต์เชียงใหม่สุดคึก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้ายของ จ.เชียงใหม่ ว่ายังคงคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงนำรถกระบะบรรทุกน้ำออกมาขับวนเล่นบริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่อย่างหนาแน่น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจ ฝ่ายปกครอง ทหารจาก มทบ.33 กว่า 1 พัน นายต้องกระจายกำลังดูแล รวมทั้งมีผู้ประกอบการจำหน่ายสุรารายใหญ่ได้จัดกิจกรรมพร้อมตั้งเวทีดนตรีประชันกัน 2 ฟากถนน บางรายนำดีเจมาเปิดเพลงและมีโคโยตี้เต้นนำ รวมทั้งมีศิลปินชื่อดัง เช่น วงแบล๊คเฮด มาเปิดคอนเสิร์ตทำให้มีวัยรุ่นมารวมตัวกันอย่างหนาแน่นไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ส่งผลให้การจราจรติดขัดในช่วงบ่ายถึงเย็นต่อเนื่องมาเป็นวันที่สาม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.เชียงใหม่ ที่ติดตั้งวิดีโอวงจรปิดกว่า 20 จุดตรวจสอบดูแลความปลอดภัย

ส่วนที่ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดงานรดน้ำดำหัวนายวิชัย ศรีขวัญ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ มีการตั้งขบวนของหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนไม่ต่ำกว่า 500 คน แห่ตามประเพณีล้านนามุ่งหน้าเดินไปยังถนนท่าแพเข้าสู่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ป้องกันจังหวัดระยองงงตัวเมืองไม่มีอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมถนนสาย 36 บริเวณตู้ยามทางหลวงเขาสังกระจาย ต.มะขามคู่ กิ่ง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ใช้รถเครนขนาดใหญ่ยกรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุขึ้นไปลอยไว้ เพื่อเตือนสติผู้ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านไปมา พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจจับความเร็ว บนถนนสาย 36 รถซิ่งที่ขับด้วยความเร็วสูงถูกจับกุมจำนวนหลายราย แต่ละคันที่ถูกจับกุมใช้ความเร็วสูง 130-150 กม.ต่อชม. โดยมี พ.ต.ต.ธงชัย วิไลพรหม สว.ส.ทล.3 กก.3 ระยอง ออกตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอย่างเคร่งครัด และการปฏิบัติงานที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน สามารถจับกุมรถที่ใช้ความเร็วสูงจำนวนมาก รวมทั้งจับกุมแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าตัวเมืองระยอง และยึดอาวุธปืนได้ 1 กระบอก

นางพิศจุไร ปานทิพย์ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ระยอง เปิดเผยว่า สถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-14 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรวม 23 ครั้ง บาดเจ็บ 25 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยทั้ง 2 ราย เป็นที่น่าแปลกใจว่าในพื้นที่ สภ.อ.เมือง จ.ระยอง ไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์