สหรัฐลั่น “มีความหวัง” อิสราเอลจะยอมรับดีลหย่าศึก
เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำทำเนียบขาวแห่งสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าทางการสหรัฐมีความคาดหวังว่าอิสราเอลจะยอมรับ ข้อเสนอหยุดยิงในฉนวนกาซ่า เป็นเวลา 6 สัปดาห์ที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เสนอแผน 3 ระยะเมื่อสัปดาห์ก่อน หากกลุ่มฮามาสยอมรับข้อตกลง
ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายที่ต้องการให้สงครามซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่แปดยุติลง รวมถึงเร่งส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และแลกเปลี่ยนตัวประกันที่ยังหลงเหลือในกาซ่า ขณะที่การโจมตีในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซ่า ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนข้อมูลของสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ) เปิดเผยว่าศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยสงครามทั้งหมด 36 แห่งในเมืองราฟาห์กลายเป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าหลังจากประชาชนชาวปาเลสไตน์ถูกบังคับให้อพยพ และคาดว่ามีชาวบ้านอีกกว่า 1.7 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในเมืองข่าน ยูนิส รวมถึงบางส่วนของพื้นที่ตอนกลางในฉนวนกาซ่า
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประจำทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์เอบีซีนิวส์ว่า สหรัฐมีทุกความคาดหวังว่าอิสราเอลจะตกลงกับข้อเสนอหยุดยิงหากกลุ่มฮามาสยอมรับ "เรากำลังรอคำตอบอย่างเป็นทางการจากกลุ่มฮามาส" นายเคอร์บีกล่าว
พร้อมเสริมว่าสหรัฐหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงเริ่มแผนระยะแรกโดยเร็วที่สุด และระหว่างการหยุดยิง 6 สัปดาห์ทั้งสองฝ่ายจะพยายามเจรจาว่าในระยะที่ 2 จะดำเนินการอย่างไรและจะเริ่มเมื่อไหร่
วันเดียวกัน รัฐบาลมัลดีฟส์ประกาศห้ามพลเมืองอิสราเอลเดินทางเข้าประเทศเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการทำสงครามยืดเยื้อในฉวนกาซ่า ส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลออกแถลงเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปมัลดีฟส์ซึ่งในปี 2566 มีชาวอิสราเอลราว 11,000 คนเดินทางไปท่องเที่ยวที่มัลดีฟส์ซึ่งน้อยกว่าร้อยละ 1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด