เมแกนได้ทีชนะคดีชั้นอุทธรณ์ จี้สื่อแท็บลอยด์เปลี่ยนนิสัย
คดีนี้เมแกนกับสื่อต่อสู้กันมานาน 3 ปี กระทั่งศาลอุทธรณ์ที่อังกฤษ ตัดสินไม่รับคำร้องจากบริษัทเอเอ็นแอล ให้พลิกคำตัดสินของศาลชั้นต้น ว่าเมล์ ออน ซันเดย์ รุกล้ำความเป็นส่วนตัว ด้วยการตีพิมพ์จดหมายส่วนตัวที่เมแกนเขียนต่อว่า นายโธมัส มาร์เคิล พ่อของตนเอง อายุ 77 ปี เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 มาตีพิมพ์เผยแพร่
คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ยึดตามคำตัดสินเดิมว่าดัชเชสทรงมีความคาดหวังว่าเนื้อหาในจดหมายมีความเป็นส่วนตัว ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นความสนใจของสาธารณะโดยชอบตามกฎหมาย
และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ รวบรวมความกล้าหาญในการปรับเปลี่ยนโฉมสื่อแท็บลอยด์ที่โหดร้ายต่อผู้คนและโกยกำไรจากคำโกหกและความเจ็บปวดที่สื่อสร้างขึ้นมา"จากวันแรก ข้าพเจ้าถือว่าการฟ้องร้องคดีนี้จะเป็นการวัดความถูกต้องกับความผิด แต่จำเลยถือว่าเป็นเกมที่ไม่มีกฎ ยิ่งนานวันเข้า สื่อก็ยิ่งบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน แม้ว่าอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ทำให้คดีที่ตรงไปตรงมากลับซับซ้อนมากขึ้นเพื่อจะได้พาดหัวข่าวและส่งผลให้ขายหนังสือพิมพ์ได้มากขึ้น"
ด้าน บริษัทเอเอ็นแอล แจ้งว่ากำลังพิจารณาอยู่ว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อในชั้นฎีกาหรือไม่ หลังจากผิดหวังอย่างยิ่งกับคำตัดสิน และมุมมองที่แข็งกร้าว คำตัดสินควรจะมาจากหลักฐานที่ใช้ในการไต่สวนในคดีที่มีการต่อสู้อย่างสูง และควรจะยึดถือก่อนการเปิดเอกสาร
ก่อนการอุทธรณ์ มูลค่าการเรียกค่าเสียหายในการทำคดีของเมแกน สูงถึง 1.5 ล้านปอนด์ หรือราว 67 ล้านบาท แต่ตัวเลขนี้ย่อมสูงขึ้นอีกจากการสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ระหว่างการสู้คดี เอเอ็นแอลระบุว่าการพิมพ์เผยแพร่จดหมายที่เมแกนเขียนถึงพ่อแสดงให้เห็นความพยายามแก้ไขภาพลักษณ์เชิงลบของนายโธมัส มาร์เคิลที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร People ในสหรัฐ
แต่ผู้พิพากษากล่าวว่าไม่ใช่การแก้ไขสิ่งผิดและเห็นด้วยกับผู้พิพากษาศาลชั้นต้นว่าเนื้อหาจดหมายเพียงย่อหน้าเดียวอาจถูกนำมาปรับใช้เพื่อหักล้างข้อกล่าวหาที่นิตยสาร People มีต่อนายมาร์เคิล
ศาลอุทธรณ์รับฟังคำให้การของนายนาวฟ์ว่าให้ข้อมูลแก่ผู้เขียนหนังสือ Finding Freedom และดัชเชสยังให้รายชื่อบัญชีที่ต้องคำนึงถึงเบื้องหลังชีวิตของดัชเชสระหว่างทรงพูดกับคณะผู้เขียนเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
แถลงการณ์ของนายเนาฟ์ทำให้ดัชเชสทรงเขียนจดหมายขออภัยต่อศาลสหราชอาณาจักร ว่าเคยให้การคลาดเคลื่อนว่าไม่เคยให้ข้อมูลชีวประวัติใดๆ กับผู้ประพันธ์หนังสือ Finding Freedom และขออภัยที่ลืมไปว่าเคยส่งข้อมูลทางโทรศัพท์ผ่านทางนายนาวฟ์
ศาลอุธรณ์กล่าวถึงคำขออภัยของดัชเชสว่าความทรงจำของดัชเชสอาจเลือนหายไปบางช่วง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นและกล่าวว่าพบหลักฐานใหม่ที่เป็นผลดีต่อเอเอ็นแอลเพียงเล็กน้อยและคงจไม่ะมีหลักฐานอะไรมาใช้อ้างในการพิจารณาคดีที่จะทำให้คดีเปลี่ยนแปลงได้
ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์กล่าวว่าตัดสินใจถูกต้องแล้ว การอ้างว่าเผยแพร่เนื้อหาในจดหมายเพียงนิดเดียวก็เหมาะกับการพิมพ์เผยแพร่แล้ว แต่ไม่จำเป็นจะต้องเผยแพร่จดหมายถึงครึ่งฉบับเหมือนที่เอเอ็นแอลทำ
ด้านทนายความของดัชเชสกล่าวว่าจดหมายดังกล่าวเป็นส่วนตัวอย่างยิ่งและเห็นได้ชัดว่าจงใจเก็บเป็นเรื่องส่วนตัว
ข้อความที่ดัชเชสส่งถึงนายนาวฟ์ซึ่งศาลเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าดัชเชสทรงผิดหวังกับราชวงศ์โดยบรรยายว่าราชวงศ์ทรงตำหนิเจ้าชายแฮร์รีอย่างต่อเนื่องเรื่องภาพพจน์ที่ไม่ดีของพ่อดัชเชส ก่อนที่จะเสกสมรสและเป็นเหตุให้ดัชเชสทรงเขียนจดหมายเพื่อปกป้องเจ้าชายแฮร์รีจากราชวงศ์
อีเมล์ที่ดัชเชสส่งถึงนายนาวฟ์แสดงว่าพระองค์ต้องการชี้แจงเรื่องที่ถูกกล่าวหาต่างๆ ทั้งเรื่องเทียร์ราที่สวมในวันเสกสมรสและปฏิเสธรายงานข่าวว่าควีนทรงเลือกเทียร์ราให้เอง
ส่วนเอเอ็นแอลแย้งว่านายมาร์เคิลมีสิทธิพิมพ์เผยแพร่ข้อความที่ตัดตอนมาจากจดหมายเพื่อล้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีซึ่งเป็นการกล่าวหาจากเพื่อนๆ ของดัชเชส 5 คนที่ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร People