หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก


หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก

โคเรียนเฮอรัลด์ และ จุงอังเดลี รายงานประเด็นร้อนของสังคมเกาหลี จากคดีเด็กหญิงจุงอิน อายุ 16 เดือน ถูกพ่อแม่ที่รับมาเลี้ยงทารุณกรรมทางร่างกายจนถึงแก่ความตาย ว่าก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองระดับประเทศ เมื่อประชาชนเรียกร้องให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้คุ้มครองเด็ก เพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิด รวมถึงปรับปรุงระบบการสอบสวนคดีใหม่



หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. จำนวนรายชื่อที่ระดมให้ชาวเกาหลีใต้ลงนามทางเว็บไซต์ เรียกร้องให้พ่อแม่เด็กถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม มีมากกว่า 230,000 รายชื่อแล้ว ขณะที่ศาลนัดไต่สวนพ่อแม่เลี้ยงของเด็ก นัดแรกวันที่ 13 ม.ค.นี้

กรณีดังกล่าวสะเทือนใจผู้คนในเกาหลีใต้มาก บรรดาคนดังรวมถึงวงการบันเทิงต่างโพสต์ข้อความ "ขอโทษด้วยนะจุงอิน" เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เด็กน้อยที่ตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากคดีนี้เผยถึงจุดบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูดาย ทั้งที่ได้รับการร้องเรียนหลายรอบแล้วว่าเด็กกำลังถูกกระทำ

เด็กหญิงจุงอินวัยเพียง 1 ขวบ 4 เดือน ได้รับการอุปถัมภ์จากสามีภรรยาในกรุงโซลที่มีลูกของตนเองอยู่แล้ว อายุ 4 ขวบ เด็กมาอยุ่กับพ่อแม่คู่นี้ได้เพียง 271 วัน ก็เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม 2563 หลังจากถูกส่งมาโรงพยาบาลฝั่งตะวันตกของกรุงโซลในสภาพบอบช้ำไปทั้งตัว มีรอยช้ำ กระดูกแตก และอวัยวะภายในเสียหาย

ผลการชันสูตรที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ระบุว่า เด็กตายเพราะเลือดตกใน สาเหตุมาจากถูกใช้กำลังรุนแรง มีบาดแผลร้ายแรงที่ดับอ่อน และเยื่อยึดลำไส้เล็กฉีกขาด ขณะนี้พ่อแม่เด็กถูกดำเนินคดีหลายข้อหา รวมถึงทารุณกรรมเด็กทำร้ายและเพิกเฉยไม่ดูแล เป็นสาเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย




หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก

ด้านตำรวจตกเป็นจำเลยสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะทั้งครูอนุบาล และกุมารแพทย์ ต่างส่งเรื่องร้องเรียนไปอย่างน้อย 3 ครั้ง แต่ตำรวจกลับไม่ทำอะไร หลังจากพ่อแม่เด็กอ้างว่ารอยช้ำที่เกิดขึ้นมาจากนวดให้เด็กแรงไปหน่อย

กรณีดังกล่าว ประธานาธิบดี มุน แจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบขั้นตอนการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมให้เข้มงวดขึ้น ยึดหลักสิทธิเด็กเป็นสำคัญ

ส่วนนายชุง ซเย-คยุน นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจต่อชะตากรรมของเด็กหญิงจุงอินและเด็กคนอื่นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมรับปากว่า รัฐบาลจะผลักดันบทลงโทษต่อผู้ทำร้ายเด็กให้หนักขึ้น และรัฐบาลต้องเข้าไปมีบทบาทสำคัญในกระบวนการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมมากขึ้น

ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรคการเมืองทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างประกาศทบทวนกฎหมายคุ้มครองเด็กให้ดีกว่าเดิม มีบทลงโทษผู้กระทำผิดที่หนักกว่าเดิม

จากการเก็บสถิติของรัฐบาล มีเด็กถูกทารุณจนเสียชีวิตช่วงปี 2557-2561 จำนวน 132 ราย จากคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงสวัสดิการสังคม 24,604 คดี เมื่อปี 2561 สูงกว่าเมื่อสิบปีก่อนถึง 4 เท่า

อี แบกึน ประธานสมาคมคุ้มครองเด็กจากการถูกทารุณและทอดทิ้ง กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายเพิ่งเริ่มต้น จำเป็นต้องมีคนมากกว่านี้ที่เคยเป็นหูเป็นตาให้คดีทำร้ายเด็ก รวมถึงงบประมาณก็ต้องได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้

"ที่สำคัญประชาชนต้องตระหนักว่า การใช้ความรุนแรงต่อเด็กเป็นเรื่องรับไม่ได้ และต้องเต็มใจที่จะแจ้งกรณีต้องสงสัยทุกเวลา การที่พ่อแม่เคยใช้ความรุนแรงกับเด็กและไม่คิดว่าเป็นอะไร ทำให้คนนิ่งเฉยคิดว่าธุระไม่ใช่ ควรจะตัองเปลี่ยนแปลงได้แล้ว" ประธานสมาคมคุ้มครองเด็กกล่าว




หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก


หนูน้อยต้องไม่ตายเปล่า เกาหลีใต้จี้ยกเครื่อง-เพิ่มโทษคนทารุณเด็ก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์