ปปง. สั่งยึดทรัพย์ เฉินจื้อ-ก๊กอาน-เบนสมิธ โยงสแกมเมอร์ฟอกเงิน


ปปง. สั่งยึดทรัพย์ เฉินจื้อ-ก๊กอาน-เบนสมิธ โยงสแกมเมอร์ฟอกเงิน


มติคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 13/2568 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งสิ้น 4 คดีหลัก จำนวนทรัพย์สิน 289 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 10,165 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. คดีนายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) และพวก จากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล โดยมีฐานปฏิบัติการหลักในประเทศกัมพูชา นายเฉิน จื้อ ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) ถูกระบุว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ โดยมีพฤติการณ์หลอกลวงในลักษณะ "ไฮบริดสแกม" (Hybrid Scam) และใช้วิธีการฟอกเงินซับซ้อนด้วยการเปลี่ยนสภาพเงินตราเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล

คำสั่ง: ยึดทรัพย์สินจำนวน 102 รายการ (อาทิ ที่ดิน เงินสด สินค้าแบรนด์เนม เครื่องประดับ)

มูลค่า: ประมาณ 373 ล้านบาท

2. คดีนายก๊ก อาน (Mr. Kok An) และพวก สืบเนื่องจากการจับกุมผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (กรณีผู้เสียหาย น.ส.ชาล็อต ออสติน) พบความเชื่อมโยงไปยังศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของ ขบวนการนี้มีการใช้บัญชีม้าที่ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า และนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาซื้ออสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินในประเทศไทยผ่านตัวแทน (Nominee)

คำสั่ง: ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 90 รายการ (อาทิ ที่ดิน และเงินฝากธนาคาร)

มูลค่า: ประมาณ 467 ล้านบาท

3. คดีนางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์, นายเบน สมิธ (Mr. Ben Smith) และพวก คดีนี้สืบสวนพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากบัญชีม้าและเครือข่ายหลอกลวง (อ้างการส่งพัสดุผิดกฎหมาย) ไปยังนายยิม เลียก (Mr. Leak Yim) ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา และนายเบน สมิธ โดยกลุ่มผู้กระทำผิดใช้วิธีการโอนเงินหมุนเวียนระหว่างบริษัททั้งในและต่างประเทศเพื่ออำพรางธุรกรรม เสมือนการประกอบธุรกิจจริง รวมถึงใช้บริษัทนิติบุคคลในการถือครองทรัพย์สินแทน

คำสั่ง: ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 66 รายการ (อาทิ ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ และเงินฝากธนาคาร)

มูลค่า: ประมาณ 9,279 ล้านบาท (มูลค่าสูงสุดใน 4 คดี)

4. คดีนายเอื้ออังกูร สันติรักษ์โยธิน และพวก กลุ่มมิจฉาชีพได้ชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นผ่านแอปพลิเคชัน ULELA Max โดยอ้างผลกำไรจูงใจผ่านกลุ่มไลน์ "กลยุทธ์การลงทุน" เมื่อได้เงินจากการหลอกลวง จะทำการแปลงสภาพเป็นสกุลเงินดิจิทัล (USDT) และโอนไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติในกัมพูชา

คำสั่ง: ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 31 รายการ (เงินสด และเงินฝากธนาคาร)

มูลค่า: ประมาณ 46 ล้านบาท


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม ทันทุกเรื่องฮิต


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์