ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่บ้านพระอาทิตย์ ภายหลังจากการประชุมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกและแกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 2 ได้อ่านแถลงการณ์พันธมิตรฯ กรณีเหตุการณ์ที่กองปราบปรามเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ 7/2555
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง ประณามการยั่วยุ คุกคาม โดยคนเสื้อแดงและตำรวจ
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6/2555 เรื่องรัฐตำรวจ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555 นั้น
ในแถลงการณ์ดังกล่าวได้ระบุอย่างชัดเจนว่าสตรีคนหนึ่ง (ทราบต่อมาว่าผู้ถูกกล่าวหาชื่อ น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ) ซึ่งถูกดำเนินคดีความโดยนางดารณี กฤตบุญญาลัยนั้น ซึ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเห็นว่าสตรีคนดังกล่าวเป็นผู้ที่มีเจตนาในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงควรให้การสนับสนุนและให้การช่วยเหลือ โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอให้กำลังใจสตรีคนดังกล่าว และพร้อมจะจัดส่งทนายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการต่อสู้คดีความนี้หากเป็นความประสงค์ของสตรีคนดังกล่าวนี้ พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้กำลังใจสตรีคนดังกล่าวในวันมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน ดังที่ทราบแล้วนั้น
จวบจนถึงปัจจุบันทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังคงไม่ได้รับการติดต่อกลับจาก น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ
โดยมีนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ไปแสดงเจตจำนงว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ก็มีประชาชนหลากหลายกลุ่มที่เห็นเจตนาดีของผู้ที่ถูกดำเนินคดีนี้ไปให้กำลังใจกับ น.ส.มนัสนันท์ หนูคำเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยที่พึงจะกระทำได้ และเป็นการประกาศก่อนล่วงหน้าอย่างเปิดเผยเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปแล้วว่าจะมีประชาชนเดินทางไปให้กำลังใจ น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ แต่กลับปรากฏว่าได้มีการปลุกระดมผ่านวิทยุชุมชนเรียกมวลชนเสื้อแดงด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ แล้วได้จัดตั้งเวทีปราศรัย ยั่วยุ คุกคาม ทั้งที่ไม่มีเหตุและไม่มีนัดหมายในการไปในบริเวณดังกล่าวมาก่อนแต่ประการใด จึงมีเจตนาชัดเจนว่าต้องการสร้างสถานการณ์การเผชิญหน้าและสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาในยามที่มวลชนของคนเสื้อแดงไปให้กำลังใจแกนนำหรือผู้ปราศรัยของตัวเองในการถูกดำเนินคดีความก็ไม่เคยปรากฏการณ์ที่มีมวลชนคนกลุ่มอื่นเข้าไปยั่วยุ หรือ สร้างสถานการณ์การเผชิญหน้าแต่ประการใด