พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 กันยายน ถึงเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มคนเสื้อเหลือง บริเวณหน้ากองปราบปราม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บว่า
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทหาร เป็นเรื่องของสถานการณ์ทั่วไป ทหารอยู่ในกรอบของกฎหมาย มีอย่างเดียวคือ ห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีผลกระทบต่อคนทั้งสองกลุ่ม ไม่ว่าพวกไหนก็เป็นคนไทยเหมือนกันทั้งคู่ ดังนั้น จะต้องมีความอดทนอดกลั้น หาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา ในขั้นนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลประชาชนให้ปลอดภัย
ผบ.ทบ.ยังเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เพราะตนจะไม่มองอะไรที่มันเลวร้ายไปทุกเรื่อง ขอให้ช่วยกันมองให้ดีๆ ให้ลดระดับให้เบาลง หากมองทุกอย่างเลวร้ายประเทศไทยจะน่าอยู่หรือไม่ น้ำก็จะท่วม ฝนก็จะตก คนก็จะตีกัน ขอให้มองในแง่ดีไม่มีอะไร ขอให้เคารพกฎหมายกัน
“ทุกวันนี้เราถอยหลังไปทะเลาะกันให้มากขึ้นเรื่อยๆ ระวังว่าสักวันมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองเสียหายพินาศแบบประเทศอื่นขอให้ช่วยกันเบาๆ ลงหน่อย ลดระดับความรุนแรง ให้คนไทยเกลียดการใช้ความรุนแรง เคารพกฎหมาย เชื่อฟังกัน ความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่ก็จะต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ แต่ถ้าจะต้องดีและฆ่ากันคงไม่ได้ ขอให้แยกกันให้ออก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศว่าการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายมาตรา 112 ควรมาจากการริเริ่ม และความเห็นขององคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เรื่องนี้ไปเกี่ยวอะไรกับองคมนตรี ผมไม่ทราบ ไม่เกี่ยวข้อง หากเป็นเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่มีหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ หน้าที่ของผมคือ พิทักษ์ รักษาสถาบันหลักของชาติ อย่างอื่นผมไม่มีความคิดเห็น อย่านำผมไปปะทะกับคนอื่น”