วันนี้ ( 25 พ.ค. ) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการเขียนกฎหมายปรองดองตนทราบเบื้องต้นว่าภายในพรรคเพื่อไทยก็ยังขัดแย้งกันอยู่ในเนื้อหา เพราะฝ่ายหนึ่งเห็นว่าถ้าเขียนให้เป็นการนิรโทษกรรมทุกความผิด รวมทั้งให้พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์ นิรโทษกรรมลบล้างผิดไปด้วยจะมีการลุกฮือขึ้นมาคัดค้านของประชาชนแน่นอน แต่อีกฝ่ายเห็นว่าทำไปเลยเพราะเสียงในรัฐสภามีเพียงพออยู่แล้ว ในที่สุดก็ให้นอมินี คือพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นผู้เสนอ ซึ่งมีข่าวลือในวงการเมืองว่า
“ พล.อ.สนธิไปพบพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว จะจริงหรือไม่พล.อ.สนธิต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ ผมไม่ทราบว่ามีการแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่ หรือมีการพบกันจริงหรือไม่ แต่การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมลบล้างความผิดทุกคดีความ ตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นแนวทางที่กมธ.ปรองดองเคยศึกษาเอาไว้ แต่สถาบันพระปกเกล้า ที่ทำรายงานเรื่องปรองดองในจำนวน 20 กว่าคนนั้นเห็นด้วยกับแนวทางนี้ 2 คนเท่านั้น เพราะแนวทางเขียนกฎหมายให้ลบล้างความผิดทั้งอาญา วางเพลิง ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคดียิงวัดพระแก้ว เผาศาลากลาง ยิงเอ็ม 79 จนแม่ค้าข้าวแกง ผู้ชุมนุม ตำรวจ ทหารตาย รวมถึงลบล้างสิ่งที่ คตส.ดำเนินการทั้งหมด ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตคำแหน่งทางการเมือง วินิจยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณให้พ้นจากความผิด แล้วในที่สุดนำไปสู่การคืนเงินให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม และกฎหมายลงอย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าการเสนอกฎหมายลักษณะนี้จะเป็นชนวนใหญ่ให้ความขัดแย้งที่มีผลมาจากการแก้รัฐธรรมนูญ การจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท กลายเป็นความขัดแย้งที่บานปลายมากขึ้นอย่างแน่นอน”นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรม ไม่อาจสร้างความปรองดองอย่างแน่นอน เหมือนเป็นการใช้เสื้อคลุมปรองดอง ปิดบังอำพาง เป้าประสงค์ที่แท้จริงเพื่อนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณและบริวาร ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิ ชี้แจงกับประชาชนให้ชัดว่า 1.ประเทศชาติและประชาชนจะได้อะไร จากกฎหมายนิโทรษกรรม 2. พล.อ.สนธิไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาจริงหรือไม่ และตกลงเงื่อนไขอะไรกันเอาไว้ ถึงยอมเป็นผู้เสนอกฎหมายฉบับนี้ 3.ผมคิดว่านายกฯฯ ซึ่งอยู่ในฐานะส.ส. หัวหน้ารัฐบาล เจ้าของพรรคเพื่อไทย และในฐานะที่เป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ ต้องแถลงท่าทีให้ชัด เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์แน่แนอน อย่าบอกว่าเป็นเรื่องของสภาฯ เพราะนายกฯเป็นหนึ่งในสภา ที่ต้องลงมติด้วย และ 4. ถ้ากฎหมายนี้ออกมา จะมีส.ส.อย่างน้อย 20 คนที่ได้ประโยชน์ พรรคเพื่อไทยจะมีท่าทีอย่างไร