การนำเสนอนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ประสานกับนโยบายปรับเงินเดือนปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท ส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูง
คล้ายกับจะสะท้อนจุด "ต่าง" ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์
เป็นความจริง ขณะเดียวกัน ภายในความขัดแย้งระหว่าง "แนวทาง" ของพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ฉายลึกถึงความขัดแย้งที่ดำรงอยู่
นั่นก็คือ ความขัดแย้งระหว่าง "ทุน" กับ "แรงงาน"
นั่นก็คือ ความขัดแย้งระหว่างเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าของธุรกิจการค้า กับบรรดาผู้ใช้แรงงาน
อันทำให้แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายจำเป็นต้องเลือกข้าง จำเป็นต้องเลือกฝ่าย
ซึ่งเห็นได้จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย เลือกยืนอยู่ในแนวทางเดียวกันกับพรรคประชาธิปัตย์ และเห็นได้จากกลุ่มและสภาผู้ใช้แรงงาน เลือกยืนอยู่ในแนว ทางเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แนวคิดที่แตกต่างกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นความแตกต่างเพียงในวิธีการ มิได้เป็นความแตกต่างในทางเนื้อแท้
เป็นเพียงมุมมองซึ่งไม่เหมือนกันต่อปัญหาเรื่องทุน และต่อปัญหาเรื่องแรงงาน
แท้จริงแล้ว แนวนโยบายของพรรคเพื่อไทยไม่ว่าในเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่ว่าในเรื่องเงินเดือนขั้นเริ่มต้นผู้จบปริญญาตรี คือความต่อเนื่องจากแนวนโยบายของพรรคไทยรักไทย และแนวนโยบายของพรรคพลังประชาชน
นั่นก็คือ แนวนโยบายอย่างที่เรียกกันว่า "ทักษิโณมิกส์"
แม้แนวนโยบาย "ทักษิโณมิกส์" จะค่อนข้างโน้มเอียงไปทางคนระดับรากหญ้าทั้งในชนบทและในเมือง คล้ายกับจะถอดเก็บบทเรียนความจัดเจนมาจากแนวทางของระบบสังคมนิยม แต่แท้จริงแล้วก็เป็นการนำเอาแนวทางของระบบสังคมนิยมมาอำนวยประโยชน์ให้กับพัฒนาการแห่งระบบทุนนิยม
นั่นก็คือ เป็นแนวคิดที่เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้กับคนระดับรากหญ้าทั้งในชนบทและในเมือง เป้าหมายก็เพื่อให้คนเหล่านี้มีเงินอยู่ในมือมากๆ
เมื่อมีเงินอยู่ในมือมากๆ ก็สามารถจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกตามใจปรารถนามากขึ้น
ผลที่จะสะท้อนกลับก็คือ บรรดาสินค้าต่างๆ อันเป็นของผู้ประกอบการ อันเป็นของนายทุนก็ผลิตได้ขายดีในท้องตลาด สร้างผลกำไรให้กับผู้ประกอบการ เป็นปฏิกิริยาในเชิงสะท้อนกลับหมุนเวียนวงรอบเหมือนกับวัฏจักร
ทั้งหมดนี้คือแนวทางพัฒนาในระบบคู่ขนาน ระหว่างกลุ่มมีกับกลุ่มไม่มี ระหว่างเมืองกับชนบทนั่นเอง
ความแตกต่างในปัญหาวิธีการระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จึงมิได้เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในลักษณะพรรค
เพียงแต่พรรคเพื่อไทยมีวิธีการที่เห็นอกเห็นใจคนยากคนจน คนระดับรากหญ้ามากกว่า
เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์มองไม่ทะลุ มองเห็นแต่ด้านอันเป็นข้อเสีย มองไม่เห็นในด้านอันเป็นข้อดี
ความแตกต่างนี้มิได้แตกต่างเฉพาะระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ หากพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบก็จะมองเห็นความแตกต่างในทางความคิด ระหว่างนายทุนและผู้ประกอบการด้วยกัน
นั่นก็คือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ตื่นตระหนกและไม่เห็นด้วย
นั่นก็คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์อันเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เห็นด้วยและสนับสนุน
ในที่สุดแล้วการนำเสนอนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เงินเดือนเริ่มต้นปริญญาตรี 15,000 บาท ก็ชำแหละให้เห็นแนวทาง 2 แนวทางของนายทุน ผู้ประกอบการ
แนวทาง 1 เห็นด้วยกับการยกระดับค่าครองชีพของคนระดับรากหญ้า ผู้ใช้แรงงาน คนชั้นกลาง แนวทาง 1 ไม่เห็นด้วยและพร้อมจะคัดค้านหัวชนฝา ไม่เปิดโอกาสให้เลย
แนวทาง 1 เป็นทุนที่พัฒนามองการณ์ไกล แนวทาง 1 เป็นทุนไม่พัฒนา มองการณ์สั้นคับแคบ
สังคมจึงจับตามองการขึ้นมาในฐานะฝ่ายบริหารของพรรคเพื่อไทยด้วยความสนใจเป็นพิเศษ
ประการหนึ่ง ด้วยความหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถขับเคลื่อนนโยบาย ขณะเดียวกันประการหนึ่ง ด้วยความมั่นใจว่านโยบายนี้จะปรับโครงสร้างการผลิตและการแข่งขันให้พัฒนา
พัฒนาก้าวหน้าไปสู่ความเป็นทุนที่พัฒนา พัฒนาก้าวหน้าไปสู่ความเป็นทุนที่สร้างสรรค์
ค่าแรง 300 บาท จุดปะทะ ′ทุนที่พัฒนา กับ ทุนไม่พัฒนา
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ค่าแรง 300 บาท จุดปะทะ ′ทุนที่พัฒนา กับ ทุนไม่พัฒนา
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว