พธม.นัดม็อบบุกสภาซัดรัฐลงมติเจบีซีทำเสียดินแดน

"พันธมิตรฯ" นัดชุมนุม 2 พ.ย. ประณามรัฐบาลขายชาติ แอบดันร่างเจบีซีไทย-กัมพูชา เข้าสภา ยันวุฒิฯ อย่าลงมติ

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตศิลา ผู้ประสานงานฯ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมพันธมิตรฯ พร้อมออกแถลงการณ์ ประณามรัฐบาลตระบัดสัตย์ หยุดรัฐบาลขายชาติ ในกรณีการนำบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) 3 ฉบับ เข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา
       
โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่แกนนำพันธมิตรฯ จึงต้องนัดประชุมด่วนหลังจากที่พันธมิตรฯ และนักวิชาการ ได้ยื่นข้อเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและนายอภิสิทธิ์ ได้รับปากว่าจะให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดวาระ และปิดการประชุมโดยไม่มีการพิจารณา แต่กลับไม่ทำตาม จนสมาชิกวุฒิสภาหลายคนต้องอภิปรายจนเลื่อนการลงมติไปในวันที่ 2 พ.ย. ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การผลักดันดังกล่าวตรงกับที่ทางกัมพูชาประกาศว่า ไทยรับปากจะเห็นชอบบันทึกเจบีซีดังกล่าว ซึ่งตนเห็นว่าถ้าคนไทยอยู่เฉยเราจะต้องเสียดินแดน 1.82 ล้านไร่แน่นอน เราเห็นแล้วว่าไม่มีทางรอด จึงต้องกำหนดให้มีการชุมนุมขึ้น ซึ่งมันจำเป็นจริง ๆ ถึงแม้จะมี พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เราก็จะพยายามทำตามกฎหมาย ถ้าเขามาแกล้งจับให้ติดคุกก็ดีกว่าต้องเสียดินแดนไป พร้อมทั้งขอให้ทหารทั้งที่เกษียณ และยังประจำการ อย่าปล่อยให้ชาวบ้านมาเหนื่อยแทน
     
นายสุวัตร กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยได้ทำการตกลงกับทางกัมพูชาไว้แล้ว จึงถือว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดกัน ที่ประชุมพันธมิตรฯ จึงมีมติที่จะส่งตัวแทนไปฟ้องศาลปกครองเพื่อคุ้มครองชั่วคราว และขอไต่สวนฉุกเฉิน ห้ามนำบันทึกความเข้าใจการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ.2543 หรือเอ็มโอยูไปใช้ ทั้งนี้ ตน นายสุริยะใส และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพันธมิตรฯจะเป็นผู้ไปยื่นคำร้องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวก็จะทำให้การลงสัตยบรรณของทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถทำได้ และทางพันธมิตรฯ ก็จะไม่ชุมนุม อย่างไรก็ตามตนขอร้องให้ ส.ส.และ ส.ว.อย่าลงมติผ่านวาระนี้ ซึ่งหากรับรองก็จะทำให้ไทยเสียดินแดนแน่ แต่ถ้าหากมีการลงมติวาระดังกล่าวให้ผ่านไปได้นั้น ก็จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาตามมาตรา 119 และ 120 ทันที ส่วนการชุมนุมที่จะเกิดขึ้งของพันธมิตรฯนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การมั่วสุม ทำตามรัฐธรรมนูญและไม่ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พันธมิตรฯ ไม่เคยเผาบ้านเผาเมือง แต่เราชุมนุมเพื่อรักษาไว้ซึ่งดินแดน ไม่เห็นจะผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินอะไร
      
ด้านนายสนธิ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ยืนยันมาตลอดว่ายึดหลักสันปันน้ำและจะดำเนินการผลักดันการยึดครองพื้นที่ออกไป โดยเฉพาะการให้คำมั่นต่อผู้ชุมนุมที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อให้การชุมนุมสลายตัว แต่ผ่านมาเป็นเวลา 3 เดือน กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ ยังพูดว่าจะให้รับวาระและปิดการประชุม แต่กลับให้มีการลงมติ แสดงให้เห็นว่า โกหกประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์จะต้องทบทวนบทบาทของนายกษิต ด้วย ที่ยืนอยู่ข้างข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศมากกว่าภาคประชาชน ทั้งนี้ ตนขอเตือนสติพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ว่า วันข้างหน้าหากไทยเสียดินแดนจากการผ่านกรอบเจบีซีที่เท่ากับยอมรับแผนที่ตามอัตราส่วน 1:200,000 คดีความจะต้องเกิดกับตัวผู้ลงมติไม่ว่าใครก็ตาม
       
"การนัดชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ 2 พ.ย. แนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ประสบอุทกภัยไม่ต้องมาเข้าร่วมชุมนุม ขอให้ดูแลบ้านของตัวเอง ซึ่งหากพี่น้องเดินทางมาร่วมชุมนุมอาจทำให้ฝั่งรัฐบาลกล่าวหาได้ว่าชาวบ้านเดือดร้อนยังชวนมาชุมนุมอีก ฉะนั้นไม่ต้องมา ส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบขอให้มาช่วยกัน เพราะขณะนี้ชาติบ้านเมืองพึ่งนักการเมืองไม่ได้แม้แต่คนเดียว" นายสนธิ กล่าว



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์