ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณากระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี
ของ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เรื่อง จริยธรรมขององค์กร สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ เดอะมิเรอร์ ของ ประเทศอังกฤษ รายงานว่า นายเจเรมี คอร์บลิน ส.ส.พรรคแรงงาน ได้ออกมาโจมตีและเรียกร้องให้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และนางซาแมธาภริยา ทบทวนแผนการเดินทางเยือนไทย ในช่วงคริสต์มาสนี้ โดยให้เหตุผลว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในห้วงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ในการสลายผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากลแสดงความกังวลเกี่ยวกับการทารุณกรรม อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนในประเทศไทย ซึ่งมีคนไปร้องที่ศาลโลก เพื่อดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีแล้ว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ว่า คงไม่มีใครอยากเห็นจริยธรรมเสื่อมทรุดในองค์กรใดๆ เพราะถ้าองค์กรมีปัญหา ประเทศชาติก็จะมีปัญหาตามมาเช่นเดียวกัน เรื่องการแก้ปัญหาจริยธรรมนั้นทุกคนในองค์กรก็ต้องช่วยกันทำให้จริยธรรมดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟัง แนวทางต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเรื่องคดีความที่บอกว่าคนจะไปดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีที่ศาลโลกนั้น เราไม่มีสิทธิ์ไปถามความคิดของใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพยายามทำไม่ใช่เป็นการทำเพื่อรักษาตัวเอง หรือเพื่อรักษารัฐบาล แต่ทำเพื่อรักษาความถูกต้อง และระบอบประชาธิปไตย และเพื่อรักษาประเทศชาติ การที่ทำไปบางคนอาจจะเห็นว่าขัดต่อหลักกฎหมายหรือไม่ ย่อมเป็นสิทธิ์ของท่านที่จะไปฟ้องศาล
“ผมเชื่อว่าไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะไปขึ้นศาลไหนก็ตามย่อมมีความพร้อมที่จะเอาความจริงบนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ใจไปต่อสู้ เราจึงไม่ได้วิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าศาลไม่ว่าอยู่ส่วนไหนของโลก ถ้าไม่ถูกแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ เหมือนกับที่บ้านเมืองเราเคยถูกแทรกแซงมาแล้ว เชื่อว่าศาลให้ความเป็นธรรมกับทุกคน จึงไม่ต้องมีความกังวล เพราะเชื่อว่านายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะนำความจริงไปต่อสู้ และไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ กับสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรี ” นายองอาจ กล่าว