"อภิรักษ์"วางมาตรการฟื้นฟูสภาพจิต-ที่อยู่อาศัย หลังน้ำลด เร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเร็วที่สุด สั่งปภ.ตรวจสอบหลักเกณฑ์ก่อนประชาชนรับเงินผ่านแบงก์
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของจ.ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ตอนล่าง จะมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมในพื้นที่
ส่วนบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาภาคกลาง ทางกรมชลประทานก็พยายามที่จะบริหารจัดการให้ปล่อยประมาณน้ำลงในพื้นที่นนทบุรี กรุงเทพฯ และปทุมธานี ให้น้อยที่สุดไม่เกิน 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งในวันที่27 ต.ค. เมื่อเวลา 10.00 น. ปริมาณน้ำไม่เกินระดับ 2.50 เมตรที่เป็นคันกั้นของกทม. แม้ว่าจะมีผลประทบต่อประชาชนที่อยู่นอกแนวเขื่อน แต่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากคือในพื้นที่จ.นนทบุรี และปทุมธานี
นอกจากนี้ได้มีการหารือถึงปริมาณน้ำที่มีการเคลื่อนจากลุ่มแม่น้ำชี แม่น้ำมูล
ซึ่งทางศูนย์ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำแบบจำลองในเรื่องการเคลื่อนตัวของน้ำที่จะไปในจ.อุบลราชธานี ก่อนที่จะลงสู่แม่น้ำโขงอีกด้วยเพื่อรับมือสถานการณ์ และได้มีการเตรียมมาตรการระยะยาวในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ เพราะหลายพื้นที่น้ำเริ่มลดแล้ว ก็จะเข้าไปฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัย สภาพความเป็นอยู่และเส้นทางสัญจร วัด มัสยิด โรงพยาบาล โรงเรียน และจะมีการร่วมมือกับกรมส่งเสริมสุขภาพเข้าไปสำรวจเยียวยาจิตใจ เพื่อสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการที่ช่วยเหลือจะพยายามให้เร็วที่สุด เพราะมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก
โดยจะให้มาตรการการจ่ายเงินผ่านเครือข่ายธนาคาร ที่ประชาชนสะดวกที่สุดและมีวิธีการตรวจสอบให้รวดเร็ว โปร่งใส โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จะเป็นผู้ตรวจสอบหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือ เชื่อว่าน่าจะเร็วที่สุดเพราะนายกฯได้เน้นย้ำอยู่ตลอด ทั้งนี้สำหรับการจ่ายเงินชดเชยผู้เสียชีวิตจะได้รับจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย จะได้รับรายละ 5 หมื่นบาท โดยหากรวมกับที่ปภ.จ่ายเพิ่มอีก สำหรับหัวหน้าครอบครัวที่เสียชีวิต ได้เพิ่มอีก 5 หมื่น ส่วนสมาชิกในครอบครัวจะได้รายละ 25,000 บาท