ที่มา - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์เข้ามายังกองบรรณาธิการ "มติชน" เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปรองดอง รวมถึงการปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย ขณะพักอยู่ในประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวไม่ขอเปิดเผย เมื่อวันที่ 10 กันยายน
--------------------------------
คุณทักษิณ ส่งสัญญาณผ่านคุณปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดแนวทางปรองดองกับรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่
คงไม่ได้ส่งสัญญาณ แต่ว่ามันเป็นผลที่มีมาต่อเนื่อง แต่มันเป็นจังหวะที่ดีที่สุดแล้วในช่วงนี้ เรียกว่าถ้าวันนี้ใครยังคิดว่า ไม่อยากปรองดอง เรียกว่าคนๆนั้น เห็นแก่ตัวอย่างมาก เพราะว่าจริงๆสัญญาณนี้ ทำให้ทุกคนเริ่มมีความรู้สึกว่า ตอนนี้มันใช่แล้ว มันเป็นเรื่องของไทม์มิ่งหรือจังหวะ มันเกิดขึ้นแล้วและบ้านเมืองช้ำขนาดนี้แล้ว ทุกฝ่ายแย่หมดแล้ว ไม่มีใครชนะนะวันนี้ แม้กระทั่งคนที่บอกว่าชนะวันนี้ เป็นการแค่ชัยชนะแค่ชั่วคราวเพื่อจะแพ้ในวันข้างหน้า แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ประเทศมันแพ้ คืออย่างที่พระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระราชดำรัส ว่า เป็นจังหวะที่ใช่แล้ว ที่ทุกคนจะต้องหันเข้ามาหันหน้าเข้าหากันเพื่อบ้านเมือง เอาเรื่องส่วนตัววางไว้ก่อน
แล้วทำไมเพิ่งมาเห็นด้วยกับแนวทางปรองดอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยเสนอมาแล้ว แถมกำหนดวันยุบสภาในเดือนพฤศจิกายนให้ด้วยแต่ก็ไม่ยอมรับข้อเสนอ
ที่คุณอภิสิทธิ์ เสนอแนวทางตอนนั้น ผมเข้าใจว่า มันเป็นเรื่องของอยู่ท่ามกลางการต่อรองกันของแต่ละฝ่าย เขากำลังเสนอข้างเดียว อีกฝ่ายหนึ่งที่เขาจะรับ ก็ต่อรอง ในการต่อรองนั้นมันก็มีตัวแปรขึ้นมากลายอัน เกิดเบรคดาวน์ขึ้นมาก่อน ไม่ใช่เรื่องของว่าเสนอแล้วไม่เอา ทุกคนรับหลักการ พอลงรายละเอียด มันอยู่ที่ว่าใครจะใจกว้างที่จะรับฟัง วันนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องลด ละ ทิฐิของตัวเอง ลด ละ หน้าตา เอาเรื่องของความอยู่รอดของบ้านเมือง ความผาสุขของประชาชน ทุกๆภาคส่วนของประเทศ เพราะว่าวันนี้เราใช้กันเปลืองมาก
หลายฝ่ายมองว่าถ้าจะปรองดอง ก็ต้องตัดเรื่องของนิรโทษกรรมคุณทักษิณ และคดีต่างๆ ไม่ให้อยู่ในเงื่อนไขการสร้างความปรองดอง
อย่ามาพูดเรื่องผมเลย ให้พูดเรื่องส่วนรวมของบ้านเมืองดีกว่า ถ้าตั้งหลักได้ เริ่มต้นปุ๊บ ก็บอกว่า ต้องไม่ยุ่งกับผม อย่างนี้มันเป็นลักษณะที่ยังมีทิฐิ ที่จะเอาชนะคะคานกันทางการเมือง มันต้องมองว่า ภาพรวมมันเกิดอะไรขึ้น และเราจะแก้อะไร ถึงจะยุติได้ มองตรงนั้นภาพรวม อย่าไปเอาเรื่องผมมาเกี่ยว เก็บไว้ทีหลังเพื่อน ไม่ต้องมาพูดถึง เอาเรื่องหลักการ ถ้าลงหลักการแล้ว จะคลุมถึงไหนก็เท่านั้น ไม่ต้องมาห่วง ผมก็แฮปปี้ดีครับ ผมอยู่เมืองนอก ก็ไม่ได้เจ็บได้ป่วยอย่างที่มีข่าว
แล้วคุณทักษิณคิดว่า กระบวนการปรองดอง จะเกิดขึ้นได้หรือเปล่า เพราะคุณบรรหาร(ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา)เองก็ไม่เชื่อ หากต่างฝ่ายต่างไม่ถอย
วันนี้มีคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น เอาอย่างนี้ดีกว่านะครับ เวลาเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในร่างกาย ตัวไวรัสมันมีความสุขมากนะ เพราะมันกินอาหารอร่อย เพราะฉะนั้นเราต้องคิดว่า มันมีไวรัสทางการเมืองมั้ย มีแบคทีเรียทางการเมืองมั้ย ในขณะที่ประเทศป่วย แต่ตัวเองกำลังอ้วนท้วน ต้องดูให้ดี
แล้วทำไมคุณทักษิณ ถึงยังไม่หยุดทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง หรือการใช้องค์กรต่างชาติมากดดันประเทศไทย
อ้าว..!! แล้วทำไมไม่หยุดแกล้งผมสักทีละ แล้วทุกวันนี้ใช้กฎหมายถูกต้องแล้วเหรอ คือคนเรานี่นะ ที่ผมเรียนด๊อกเตอร์ ทางอาชญวิทยา ผมจบทางนี้มา เขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง ลู ออฟ ลอว์ แต่ผมเป็นคนโดนรังแกในเรื่องนี้มากที่สุด คือความเป็นธรรมเป็นเรื่องสำคัญ แล้วผมเป็นคนที่พูดรู้เรื่องมากเลยนะ แต่ไม่ใช่ใช้วิธีรังแก และให้ความไม่เป็นธรรม ถ้าจะพูดกันรู้เรื่อง อะไรก็ได้ ผมนี่พูดง่ายจะตาย แต่ว่า ถ้าจะกลั่นแกล้งกันนิ มันไม่จบซะที แล้วทำไมเขามากลั่นแกล้งผมทำไม..ผมไม่ทำอะไรให้เลย
คุณทักษิณได้ยินข่าว นานาชาติที่ต้องการให้ประเทศไทย เกิดความสงบ ถึงขนาดตั้งกลุ่มเฟรนด์ออฟไทยแลนด์ ขึ้นมาหรือเปล่าครับ
รู้เรื่องดี ก็มีหลายคน หลายกลุ่ม ก็มาคุยกับผม
เป็นกลุ่มไหน อย่างไร ทำไมถึงมีความเป็นห่วงประเทศไทย
เป็นคนที่เคยอยู่เมืองไทยทั้งหลาย มีเมียไทย เขามีความรู้สึกว่า ไม่เคยเห็นประเทศไทยเป็นอย่างนี้มาก่อน เขาตัดสินใจที่จะอยู่ประเทศไทย ตัดสินใจที่ทำงานประเทศไทย มีเมียไทย ก็เพราะว่าประเทศไทยในอดีต ไทยมีความสุข คนยิ้มแย้ม ทักทายใส่กัน วันนี้ทำไมประเทศเพี้ยนไปแล้ว เขาก็อยากให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเหมือนเดิม อันนี้ก็คือ เจตนาของพวกเขา
อันนี้เป็นกลุ่มเป็นก้อนที่เหนียวแน่น มีเป้าหมายที่ชัดเจน
ก็...เขามีความเชื่อมโยงกับองค์กรนานาชาติ หลายองค์กรครับ อย่างบางคนก็เชื่อมโยงกับทางเอ็นจีโอ แถวสวิตเซอร์แลนด์ แถวสวีเดน เพื่อที่จะเป็นกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวเชื่อมโยง ไปจนถึงกลุ่มพวกที่ ทำสันติภาพ ในบอสเนีย ในอาเจะย์ อะไรพวกนี้มันหลายกลุ่ม
แต่เป้าหมายหลักคือ ให้เกิดความสันติภาพ ให้เกิดความปรองดอง ในประเทศไทย
ต้องถามว่า ต่างชาติที่เขารักประเทศไทย เขายังอยากเห็นบ้านเมืองเราสงบ ถามว่าคนไทยเรา ไม่อยากเห็นหรือ
นับจากนี้ไปในสังคมไทย นักการเมืองไทย รวมทั้งคนไทย รวมถึงตัวคุณทักษิณ อาจจะต้องมีการปรับตัวทั้งในเรื่อง ความคิด หรือพฤติกรรมอย่างไร ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้
ก็..มันต้องหันหน้าเข้าหากัน ก็ต้องลืมเรื่องในอดีต ต้องมองไปข้างหน้าว่าเราจะทำประเทศไทย ให้มีความปรองดองกันอย่างไร และจะเดินไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไร เพื่อให้บ้านเมืองมันเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่ใช่ว่า ใครมีอำนาจก็กลั่นแกล้งคนที่ไม่มีอำนาจ และมันก็ไม่จบซะที
หันกลับมาถามเรื่อง การใช้องค์กร ต่างชาติหรือว่าคนต่างชาติเข้ามากดดันประเทศไทย คิดอย่างไร กับการใช้บริการทนายความชื่อ "โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม"
มันไม่ใช่เรื่องของการกดดันหรอกครับ..(ตอบสวนทันที) ทุกคนต้องแสวงหาความยุติธรรม อันที่สองเนี่ย องค์กรต่างชาติที่เขาเข้ามา เพราะเขาเป็นเพื่อนประเทศไทย เขาเห็นประเทศไทย แล้วคนไทยไม่สามารถยุติความขัดแย้งด้วยกันเองได้ เขาก็อยากมีส่วนร่วม มีส่วนช่วย เขาอยากความขัดแย้งทั้งหลายที่ได้รับการ ได้ยุติโดยเร็ว เขาอยากมาช่วยด้วยความปรารถนาดี ไม่มีใครปรารถนาร้ายต่อประเทศไทยหรอกครับ เพียงแต่ว่า คนบางกลุ่ม บางเหล่า ที่ยังกำลังสนุกอยู่ และบางคนก็เป็นพาราไซต์ทางการเมือง ก็กำลังสนุกอยู่กับงบประมาณ ต้องให้ความขัดแย้งดำเนินต่อไป