เปิดใจทักษิณปริศนาปรองดอง ไม่คิดล้างแค้นแต่ไม่จูบปาก

ที่มา - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์เข้ามายังกองบรรณาธิการ "มติชน" เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปรองดอง รวมถึงการปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย ขณะพักอยู่ในประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวไม่ขอเปิดเผย เมื่อวันที่ 10  กันยายน

--------------------------------


คุณทักษิณ ส่งสัญญาณผ่านคุณปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดแนวทางปรองดองกับรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่
  คงไม่ได้ส่งสัญญาณ แต่ว่ามันเป็นผลที่มีมาต่อเนื่อง แต่มันเป็นจังหวะที่ดีที่สุดแล้วในช่วงนี้ เรียกว่าถ้าวันนี้ใครยังคิดว่า ไม่อยากปรองดอง  เรียกว่าคนๆนั้น เห็นแก่ตัวอย่างมาก เพราะว่าจริงๆสัญญาณนี้ ทำให้ทุกคนเริ่มมีความรู้สึกว่า ตอนนี้มันใช่แล้ว มันเป็นเรื่องของไทม์มิ่งหรือจังหวะ มันเกิดขึ้นแล้วและบ้านเมืองช้ำขนาดนี้แล้ว ทุกฝ่ายแย่หมดแล้ว ไม่มีใครชนะนะวันนี้ แม้กระทั่งคนที่บอกว่าชนะวันนี้ เป็นการแค่ชัยชนะแค่ชั่วคราวเพื่อจะแพ้ในวันข้างหน้า แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ประเทศมันแพ้ คืออย่างที่พระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระราชดำรัส ว่า เป็นจังหวะที่ใช่แล้ว ที่ทุกคนจะต้องหันเข้ามาหันหน้าเข้าหากันเพื่อบ้านเมือง เอาเรื่องส่วนตัววางไว้ก่อน


แล้วทำไมเพิ่งมาเห็นด้วยกับแนวทางปรองดอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยเสนอมาแล้ว แถมกำหนดวันยุบสภาในเดือนพฤศจิกายนให้ด้วยแต่ก็ไม่ยอมรับข้อเสนอ
  ที่คุณอภิสิทธิ์ เสนอแนวทางตอนนั้น ผมเข้าใจว่า มันเป็นเรื่องของอยู่ท่ามกลางการต่อรองกันของแต่ละฝ่าย เขากำลังเสนอข้างเดียว อีกฝ่ายหนึ่งที่เขาจะรับ ก็ต่อรอง ในการต่อรองนั้นมันก็มีตัวแปรขึ้นมากลายอัน เกิดเบรคดาวน์ขึ้นมาก่อน ไม่ใช่เรื่องของว่าเสนอแล้วไม่เอา ทุกคนรับหลักการ พอลงรายละเอียด มันอยู่ที่ว่าใครจะใจกว้างที่จะรับฟัง  วันนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องลด ละ ทิฐิของตัวเอง ลด ละ หน้าตา เอาเรื่องของความอยู่รอดของบ้านเมือง ความผาสุขของประชาชน ทุกๆภาคส่วนของประเทศ เพราะว่าวันนี้เราใช้กันเปลืองมาก


หลายฝ่ายมองว่าถ้าจะปรองดอง ก็ต้องตัดเรื่องของนิรโทษกรรมคุณทักษิณ และคดีต่างๆ ไม่ให้อยู่ในเงื่อนไขการสร้างความปรองดอง 
 อย่ามาพูดเรื่องผมเลย ให้พูดเรื่องส่วนรวมของบ้านเมืองดีกว่า ถ้าตั้งหลักได้ เริ่มต้นปุ๊บ ก็บอกว่า ต้องไม่ยุ่งกับผม อย่างนี้มันเป็นลักษณะที่ยังมีทิฐิ ที่จะเอาชนะคะคานกันทางการเมือง มันต้องมองว่า ภาพรวมมันเกิดอะไรขึ้น และเราจะแก้อะไร ถึงจะยุติได้ มองตรงนั้นภาพรวม อย่าไปเอาเรื่องผมมาเกี่ยว เก็บไว้ทีหลังเพื่อน ไม่ต้องมาพูดถึง เอาเรื่องหลักการ ถ้าลงหลักการแล้ว จะคลุมถึงไหนก็เท่านั้น ไม่ต้องมาห่วง ผมก็แฮปปี้ดีครับ ผมอยู่เมืองนอก ก็ไม่ได้เจ็บได้ป่วยอย่างที่มีข่าว


แล้วคุณทักษิณคิดว่า กระบวนการปรองดอง จะเกิดขึ้นได้หรือเปล่า เพราะคุณบรรหาร(ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา)เองก็ไม่เชื่อ หากต่างฝ่ายต่างไม่ถอย
 วันนี้มีคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น เอาอย่างนี้ดีกว่านะครับ เวลาเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในร่างกาย ตัวไวรัสมันมีความสุขมากนะ เพราะมันกินอาหารอร่อย เพราะฉะนั้นเราต้องคิดว่า มันมีไวรัสทางการเมืองมั้ย มีแบคทีเรียทางการเมืองมั้ย ในขณะที่ประเทศป่วย แต่ตัวเองกำลังอ้วนท้วน ต้องดูให้ดี


แล้วทำไมคุณทักษิณ ถึงยังไม่หยุดทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง หรือการใช้องค์กรต่างชาติมากดดันประเทศไทย 
 อ้าว..!! แล้วทำไมไม่หยุดแกล้งผมสักทีละ แล้วทุกวันนี้ใช้กฎหมายถูกต้องแล้วเหรอ คือคนเรานี่นะ ที่ผมเรียนด๊อกเตอร์ ทางอาชญวิทยา ผมจบทางนี้มา เขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง ลู ออฟ ลอว์  แต่ผมเป็นคนโดนรังแกในเรื่องนี้มากที่สุด คือความเป็นธรรมเป็นเรื่องสำคัญ แล้วผมเป็นคนที่พูดรู้เรื่องมากเลยนะ แต่ไม่ใช่ใช้วิธีรังแก และให้ความไม่เป็นธรรม ถ้าจะพูดกันรู้เรื่อง อะไรก็ได้ ผมนี่พูดง่ายจะตาย แต่ว่า ถ้าจะกลั่นแกล้งกันนิ มันไม่จบซะที แล้วทำไมเขามากลั่นแกล้งผมทำไม..ผมไม่ทำอะไรให้เลย


คุณทักษิณได้ยินข่าว นานาชาติที่ต้องการให้ประเทศไทย เกิดความสงบ ถึงขนาดตั้งกลุ่มเฟรนด์ออฟไทยแลนด์ ขึ้นมาหรือเปล่าครับ
  รู้เรื่องดี ก็มีหลายคน หลายกลุ่ม ก็มาคุยกับผม


เป็นกลุ่มไหน อย่างไร ทำไมถึงมีความเป็นห่วงประเทศไทย 
 เป็นคนที่เคยอยู่เมืองไทยทั้งหลาย มีเมียไทย เขามีความรู้สึกว่า ไม่เคยเห็นประเทศไทยเป็นอย่างนี้มาก่อน เขาตัดสินใจที่จะอยู่ประเทศไทย ตัดสินใจที่ทำงานประเทศไทย มีเมียไทย ก็เพราะว่าประเทศไทยในอดีต ไทยมีความสุข คนยิ้มแย้ม ทักทายใส่กัน วันนี้ทำไมประเทศเพี้ยนไปแล้ว เขาก็อยากให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเหมือนเดิม อันนี้ก็คือ เจตนาของพวกเขา


อันนี้เป็นกลุ่มเป็นก้อนที่เหนียวแน่น มีเป้าหมายที่ชัดเจน
 ก็...เขามีความเชื่อมโยงกับองค์กรนานาชาติ หลายองค์กรครับ อย่างบางคนก็เชื่อมโยงกับทางเอ็นจีโอ แถวสวิตเซอร์แลนด์ แถวสวีเดน เพื่อที่จะเป็นกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวเชื่อมโยง ไปจนถึงกลุ่มพวกที่ ทำสันติภาพ ในบอสเนีย ในอาเจะย์ อะไรพวกนี้มันหลายกลุ่ม


แต่เป้าหมายหลักคือ ให้เกิดความสันติภาพ ให้เกิดความปรองดอง ในประเทศไทย
 ต้องถามว่า ต่างชาติที่เขารักประเทศไทย เขายังอยากเห็นบ้านเมืองเราสงบ ถามว่าคนไทยเรา ไม่อยากเห็นหรือ


นับจากนี้ไปในสังคมไทย นักการเมืองไทย รวมทั้งคนไทย รวมถึงตัวคุณทักษิณ อาจจะต้องมีการปรับตัวทั้งในเรื่อง ความคิด หรือพฤติกรรมอย่างไร ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้
 ก็..มันต้องหันหน้าเข้าหากัน ก็ต้องลืมเรื่องในอดีต ต้องมองไปข้างหน้าว่าเราจะทำประเทศไทย ให้มีความปรองดองกันอย่างไร และจะเดินไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไร เพื่อให้บ้านเมืองมันเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่ใช่ว่า ใครมีอำนาจก็กลั่นแกล้งคนที่ไม่มีอำนาจ และมันก็ไม่จบซะที


หันกลับมาถามเรื่อง การใช้องค์กร ต่างชาติหรือว่าคนต่างชาติเข้ามากดดันประเทศไทย  คิดอย่างไร กับการใช้บริการทนายความชื่อ "โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม"
 มันไม่ใช่เรื่องของการกดดันหรอกครับ..(ตอบสวนทันที) ทุกคนต้องแสวงหาความยุติธรรม อันที่สองเนี่ย องค์กรต่างชาติที่เขาเข้ามา เพราะเขาเป็นเพื่อนประเทศไทย เขาเห็นประเทศไทย แล้วคนไทยไม่สามารถยุติความขัดแย้งด้วยกันเองได้ เขาก็อยากมีส่วนร่วม  มีส่วนช่วย เขาอยากความขัดแย้งทั้งหลายที่ได้รับการ ได้ยุติโดยเร็ว  เขาอยากมาช่วยด้วยความปรารถนาดี ไม่มีใครปรารถนาร้ายต่อประเทศไทยหรอกครับ เพียงแต่ว่า คนบางกลุ่ม บางเหล่า ที่ยังกำลังสนุกอยู่ และบางคนก็เป็นพาราไซต์ทางการเมือง ก็กำลังสนุกอยู่กับงบประมาณ ต้องให้ความขัดแย้งดำเนินต่อไป


สถานการณ์ในพรรคเพื่อไทยขณะนี้ คุณยงยุทธ(วิชัยดิษฐ์) ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ มาเป็นหัวหน้าพรรคเพราะได้ไฟเขียวจากคุณทักษิณ
 เขายังไม่ได้เลือกกันนี่ครับ เขาคงต้องเลือกอีก


คุณโกวิทเหมาะกับสถานการณ์ ณ เวลานี้ในส่วนพรรคเพื่อไทยอย่างไร
 ก็....วันนี้จริงๆแล้ว ก็ไม่มีอะไรนะ เป็นเรื่องธรรมดา ของพรรคการเมืองที่จะมีการปรับเปลี่ยน โครงสร้างธรรมดา เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องจะมีการปรับเปลี่ยน ช่วงนี้ก็เป็นเรื่องเราก็อยากเห็นบ้านเมืองเกิดความปรองดองขึ้น คงไม่มีอะไรครับ ไม่มีประเด็น


แต่ดูเหมือนว่าปัญหา พรรคเพื่อไทยวันนี้เหมือนสาละวันเตี้ยลงอยู่ทุกวัน
  ไม่เตี้ยหรอกครับ ไว้คอยดูตอนเลือกตั้งแล้วกันนะ ว่าจะเตี้ยหรือจะสูง มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ พรรคการเมืองยิ่งใหญ่ที่มีประชาธิปไตยมาก การโต้แย้ง การแสดงความคิดเห็นที่ต่างกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถึงเวลาแล้วทุกคนก็ทำตามมติ ก็ดูอย่างการขับ ส.ส. 2 คน อันนั้นก็แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยเตี้ยลงหรือไม่เตี้ย เตี้ยลงครับ ตัดของเน่าไปสองหน่อ


ส่วนตัว คุณทักษิณ ยังมีบทบาทอยู่ในพรรคเพื่อไทยทางด้านความคิด หรือว่าแรงสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน
 ก็พวกมีอะไร เขาก็โทรมาคุย มาปรึกษาบ้าง ก็ให้คำปรึกษาบ้าง ผมห่างแล้ว ผมอยู่ข้างนอก  อาจจะไม่ค่อยรู้ ปรึกษาได้น้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากว่า การไม่อัพเดทต่อสถานการณ์ มันมีมาก เพราะเนื่องจากว่า อยู่ไกล


แต่บทบาทของคุณเยาวภา  วงศ์สวัสดิ์ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังสูงอยู่ในพรรค
 ในฐานะที่เอ่อ.....อยู่ตรงนั้นเนี่ย พูดคุยปรึกษาเป็นเรื่องธรรมดา ก็หลายคน การปรึกษาหารือกันแบบคนไทย มันก็เป็นเรื่องธรรมดา


คุณทักษิณ ยังเชื่อว่า อำนาจนอกระบบจะกลับมายิ่งใหญ่อีกหรือไม่ครับ เพราะว่าบ้านเมือง และการเมืองอ่อนแอ
 อำนาจนอกระบบคืออะไร


อาจจะเป็น อำนาจทหาร หรืออาจจะนอกเหนือจากนั้น ที่ไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตย
 จริงๆ แล้วเนี่ย เอ่อ.. (คิดนาน) ชาติบ้านเมืองเป็นระบบประชาธิปไตยที่แท้จริง ทุกอย่างก็ไม่มีอะไร ทุกคนคิดจะทำงานหวังที่จะให้ประชาชนพอใจ แต่พอไม่มีประชาธิปไตย และมีการแสวงหาอำนาจนอกระบบ อำนาจนอกระบบมีความสำคัญขึ้น ทุกคนก็จะไปแคร์อำนาจนอกระบบมากกว่า เพราะฉะนั้นประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด คือการทำทุกอย่างเพื่อประชาชน  เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และก็เป็นเรื่องของหลักประชาธิปไตย


กำลังมองประเทศไทยเหมาะหรือไม่กับประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะเมืองไทย วัฒนธรรมไทย อาจจะต่างกับประเทศในโลกตะวันตก 
 วันนี้ ถ้าเป็นความเห็นของสื่อมวลชน ผมจะเซอร์ไพรส์มากครับ เพราะว่าเรากำลังมองว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ผมตกใจมาก จริงๆแล้วเนี่ย ผมคิดว่า ประชาธิปไตย เป็นอะไรมันบังคับใจให้ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ถ้าไม่เช่นนั้น ประชาชนก็จะไม่นิยม จะไม่เลือก ก็จะไม่เข้าสู่อำนาจตามที่ต้องการ เพราะศูนย์กลางอยู่ที่ประชาชน นี่คือความเชื่อ เชื่อในทฤษฎี
 

ทฤษฎีที่ว่าด้วยการเขียนโซเชียลคอนแทคท์(สัญญาประชาคม) ก็มองถึงว่า การที่ประชาชนมารวมตัวกัน ต้องการตัวแทน ที่จะทำงานเพื่อประชาชน ถ้าหากว่าเรามีกระบวนการที่ เกิดอะไรขึ้นมาที่ไม่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ก็จะทำให้บ้านเมืองมันไปยาก เราจะมาเป็นแบบคอมมิวนิสต์ แบบสมัยก่อนมันไม่เวิร์กแล้ว กระทั่งประเทศอย่างประเทศจีน ก็พยายามเพิ่มสิทธิเสรีภาพ ของประชาชนเรื่อยๆ  แต่ของเรามันไปไกลเกินประชาธิปไตยไปแล้ว ถ้าเกิดกลับไปตรงนั้นมันคงไม่ง่ายในความรู้สึกของประชาชน


แต่องค์ประกอบหลักของประชาธิปไตยก็คือ นักการเมืองต้องเข้มแข็ง มีวิสัยทัศน์
 แน่นอนครับ แต่ว่าวันนี้เนี่ย ผมกำลังถามอยู่ว่า บางคน หรือสื่อบางสื่อไปลงข่าวเหมือนกับสื่อว่า เอ้ย จริงแน่โว้ย คนนี้ไปซื้อ ส.ส.  แล้วเป็นข่าว เราจะต้องถามว่าคนที่ซื้อเนี่ยมันมีอาชีพอะไร เอาสตางค์ที่ไหนมาซื้อ  ถ้ามันไม่โกงมา อย่างนี้เราไปชื่นชมได้อย่างไร บางทีบางครั้งเเราต้องประณามสิ่งที่ไม่ดีบ้าง บางครั้ง เราชื่นชมกับสิ่งที่คนบางคน โอ้โห ซื้อ ส.ส. 50-60 ล้าน ก็ถามว่าเอาเงินมาจากไหน มีอาชีพอะไร อันนี้ต้องหยุดคิด หยุดคิดกันว่า เหตุและผลสำคัญ  ต้องคิดเยอะๆ 
 

วันนี้ ผมว่าต้องมองไปข้างหน้าแล้ว เราจะทำอย่างไงให้บ้านเมืองมันปรองดองเข้าหากันได้ ยิ้มเข้าหากันได้ เวลานี้ร้านสีแดงไม่รับสีเหลือง ร้านสีเหลืองไม่รับสีแดง ผมว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่านิยมเลย สิ่งที่น่านิยมก็คือคนไทยต้องยิ้มให้กันได้ ต้องไม่ถามว่าใครสีอะไรแล้ว ต้องเป็นสีเดียวกันแล้ว บางบ้านผัว-เมียยังคนละสี เป็นสิ่งที่เราคิด เราแฮปปี้กันเหรอ มันไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเราปล่อยให้การต่อสู้เกิดขึ้นต่อไป เมื่อไม่มีใครยอมแพ้ใคร  ผลสุดท้ายแพ้ทั้งคู่ และประเทศแพ้ด้วย  ถามว่าพอหรือยัง เอาละนา แลกหมัดกันคนละตุ๊บ คนละตั๊บ พอแล้ว


ถอยกันคนละก้าว
 ห้าก้าวก็ต้องถอยเพื่อให้บ้านเมืองสงบ อย่าไปคิดว่ามันเป็นหน้าเป็นตาเป็นศักดิ์ศรี  วันนี้ต้องคิดว่าเรามาร่วมกันดีกว่า ไม่ต้องชี้นิ้วด่ากันแล้ว หรือว่าไม่ต้องมานั่งเป็นแบบเด็ก เขียนหัวกระโหลกพ่อเอ็ง เขียนหัวกระโหลกพ่อกู เปลี่ยนกันเหยียบ แล้วก็ต่อยกัน ไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว เราจะต้องเป็นผู้ใหญ่  มองว่าเราจะหันหน้าเข้าหากันอย่างไร ที่ผ่านมาเรานัวเนียกันอย่างไร เราใช้ยุทธกระบวนการอย่างสิ้นเปลืองกันอย่างไร บังคับให้องค์กรอิสระเป็นสองมาตรฐาน เราบังคับให้ฝ่ายศาลเป็นสองมาตรฐาน ถามว่ามันพอหรือยัง สถาบันที่เราสร้างกันมาเป็น 100 ปี ต้องเสื่อมทรามลง ทำไม..หยุดแค่นี้ วันนี้หยุดดีกว่า


ถ้าหยุดวันนี้ยังมีเวลาที่จะช่วยกันฟื้นฟู
 แน่นอนครับ ประเทศไทยนี่ถ้าหยุด ปุ๊บเดียวเท่านั้น คนไทยพอเลิกทะเลาะกันเนี่ยนะ หันมาหากัน มันเหมือนสิ่งอัศจรรย์


ทำไมคนไทยด้วยกัน พูดภาษาเดียวกัน ทำไมคุยกันไม่รู้เรื่อง
 ก็ทุกคนก็ตั้งคำถาม  ทุกฝ่ายต้องเข้ามาร่วมกันช่วย บางทีเราตั้งคำถาม ใช่ คำถามมันจริง แต่เราต้องหาคำตอบด้วยว่าจะช่วยกันอย่างไร ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย สื่อมวลชนก็ต้องช่วย และไม่ต้องห่วงนะว่าผมจะคิดไปล้างแค้นใคร ในใจผมเนี่ย คิดอย่างเดียวครับว่าความปรองดองเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เรื่องล้างแค้นไม่ได้คิด ไม่ติดใจใครเลย แต่ว่าจะให้มาจูบปากอย่างเดิมคงไม่ใช่ แต่ไม่ติดใจที่จะล้างแค้นใคร


แต่ข้อกล่าวหาของคุณทักษิณในเมืองไทย ก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งการจาบจ้วงสถาบัน หรือล่าสุดเรื่องวิคเตอร์ บูท ที่เชื่อมโยงว่าเครื่องบินที่ขนอาวุธมาถูกจับที่ดอนเมือง เป็นของคุณทักษิณ
 แล้วเชื่อว่าจริงหรือเปล่าละ.. เชื่อมั้ย


อาจเป็นไปได้และอาจเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้
 ก็นี่ไง..มันเป็นข้อกล่าวหาที่จะกล่าวหาใครก็ได้ บางทีกล่าวหา แล้วผมพิสูจน์ไม่ได้ เราก็กล่าวหาอยู่ๆขึ้นมาลอยๆ อย่างบอกว่า นายคนนี้ลักของ เราก็ไม่มีหลักฐาน เราก็บอกแต่ก็พิสูจน์ไม่ได้  เขาอาจจะเอาของไปขายแล้ว ทั้งๆที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เราจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือไม่ละ
 

วันนี้ คนกล่าวหาได้เปรียบ ในรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เขาถึงระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหาคือผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะพิสูจน์ทำจริง ถึงมีระบบกระบวนการยุติธรรมที่เป็นประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นจะกล่าวหาใครก็ได้ เดินมาแล้วกล่าวหาแล้วก็เชื่อกันหมด บางทีว่างๆ ก็บอกว่า ผมตายไปแล้ว ขนาดว่า กล่าวหาเรื่องที่พิสูจน์ง่ายๆ เขายังกล้าที่จะกล่าวหา อย่างกล่าวหาว่าใส่วิกเพราะผมร่วง พอเข้าร้านตัดผมก็บอกว่าใส่เสื้อแขนยาวปกปิดรอยแผล ไปได้เรือยๆ ตอนนี้ทุกฝ่ายต้องอยู่ด้วยความคิด ใครเล่า ใครลือมา ก็ต้องคิด


ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า คุณทักษิณถ่ายเลือดจนช็อคคาเข็ม
 เอ้อ..ก็นี่ไง คนที่มันไม่ชอบกันเนี่ยมันจะพูดอะไรก็ได้ แต่ผมให้อภัยหมดแล้ว ผมไม่คิดอะไรมาก ก็บอกว่าผมตายผมก็เลยอายุยืน ว่าผมป่วยผมก็เลยแข็งแรง ผมก็เลยเรียกว่าเขาให้พรผม ทำให้อายุยืนและแข็งแรงขึ้น


ว่ากันว่าคุณทักษิณอาจจะไม่ได้กลับเมืองไทยแล้ว คุณทักษิณคิดยังนั้นหรือเปล่า
  ก็..คงไม่ต้องห่วงผม ห่วงบ้านเมืองดีกว่า เรื่องผมเอาไว้ทีหลัง บ้านเมืองมาก่อน ให้บ้านเมืองสงบ ให้ประชาชนมีความสุข มีความสัตย์จริง ไม่มีแดง ไม่มีเหลือง ที่บ้านผัว-เมียมีความหวานชื่นเหมือนเดิม ไม่มีเอเอสทีวี ไม่มีพิเพิลแชนแนล ให้เป็นความสุขความสงบดีกว่า


คุณทักษิณคิดว่าเป็นกรรมหรือเปล่าที่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้ ไปประเทศไหนก็ตามกดดันอยู่ตลอดเวลา
  ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะบางประเทศผมไป ขาดแต่กองเกียรติยศกับพรมสีแดง นอกนั้นเหมือนเดิม เอารถนำมารับผม ให้ผมจอดเครื่องบินบนรันเวย์พิเศษ เสร็จแล้วก็มีทหาร-ตำรวจเฝ้าหน้าห้องให้ผม มันก็แล้วแต่ประเทศครับ บางประเทศเขาก็บอกผมว่า เขามีสนธิสัญญานะ เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่าเพิ่งเข้ามานะ ให้สถานการณ์สงบแล้วค่อยเข้ามา เขาก็พูดกับผมดีๆนะ แต่ส่วนใหญ่แล้ว มาเลย ก็ไม่เห็นมีอะไร ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร ก็มีความสุขดี แต่ว่าสิ่งที่ผมทุกข์ก็คือ เห็นบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย


เห็นว่าซื้อเครื่องบินส่วนตัว ไปไหนมาไหนมาสะดวกแล้ว
 ผมก็ใช้เครื่องบินส่วนตัวมานานแล้ว มาตั้งแต่ที่ผมออกจากประเทศไทยประมาณสัก 6-7 เดือน ไปไหน ผมก็ไปเครื่องบินส่วนตัวตลอด


ตอนนี้กิจกรรมและธุรกิจที่คุณทักษิณทำ มีอะไรบ้างครับ เหมืองเพชร เหมืองพลอย  อื่นๆอีกมากมาย
 ก็ต้องทำมาหากินแหละครับ เพราะว่าจะมาอยู่อย่างนี้ ค่าใช้จ่ายสูงครับ


กิจวัตรประจำวันก็เรื่องงานอย่างเดียวใช่ไหมครับส่วนใหญ่
 ทั้งนั้นแหละครับ แต่ไม่ค่อยสนุกสนานเท่าไหร่ครับ เพื่อนจากเมืองไทยมาเยี่ยมผม เพื่อนต่างประเทศบ้าง ก็ทำงานบ้าง ทำมาหากินเลี้ยงชีพบ้าง


แสดงว่าอยู่ไม่ไกลประเทศไทยเท่าไหร่นัก
 ผมก็ไปได้ทุกที่แหละครับ ไปได้ทั่วโลก  วันนี้เห็นทุกอย่างแล้วครับ


บั้นปลายของคุณทักษิณจะดำเนินชีวิตอย่างไร นับจากนี้
 ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องห่วงผม  ห่วงสังคมไทยว่าเมื่อไหร่จะเกิดความปรองดองกัน ผมเป็นคนที่มีความสุข มีความสุขได้ถ้าต้องการจะมีความสุข ในทุกสถานะ ต้องปรับตัว สัตว์โลกเกิดมาย่อมต้องมีการปรับตัว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์