ประชุม กมธ.ต่างประเทศเดือด"ศิริโชค"สาวไส้ อ้างรู้เครือข่ายค้าอาวุธสงครามพ่อค้าระดับโลกชาวเซอร์เบียโยง"แม้ว" ชี้อาร์พีจียิงวัดพระแก้วตรงกับที่บรรจุในคาร์โก้ลำถูกจับ "จตุพร"ซัดปัญญาอ่อน ข้องใจฝ่ายความมั่นคงทำสำนวนอ่อน ปล่อยตัวลูกเรือ หาก"บูท"ร่วมจริง ทำไมไม่เอาผิดอีกกระทง ด่ากันลั่นห้องถึงขั้นสมองหมาปัญญาควาย "ต่อพงษ์"เผยราชทัณฑ์ห้ามแพร่บันทึก 5 หน้า
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นประธานการประชุม กมธ.การต่างประเทศฯ
เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่รัฐสภา เพื่อพิจารณากรณีนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธชาวรัสเซีย ที่ถูกศาลพิพากษาส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐอเมริกา การประชุมนัดนี้ กมธ.เชิญนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทนายกรัฐมนตรี ที่เข้าพบนายวิคเตอร์ บูท เพื่อหาข้อมูลถึงในเรือนจำ เข้าชี้แจง โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท. ในฐานะผู้ยื่นญัตติร่วมซักถาม และนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พท.เข้าร่วมสังเกตการณ์
ทั้งนี้ นายศิริโชคชี้แจงเรื่องที่ต้องเข้าพบนายบูท ที่เรือนจำบางขวางในเดือนเมษายน 2553 ต่อ กมธ.เป็นการเข้าไปหาข้อมูลเครื่องบินขนอาวุธที่ถูกจับได้ในไทยว่า
เข้าสอบถามข้อมูลหลังจากได้รับข้อมูลวันที่ 11 เมษายน 2552 กรณีฝ่ายค้านศรีลังกาแถลงระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธให้กับกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม เลขทะเบียนของเครื่องบินที่จับกุมได้ คือ 4L-AWA เมื่อตรวจสอบจากเลขทะเบียนเครื่องบิน พบมีบริษัท Overseas cargo fze sharkah U.A.E. เป็นเจ้าของประกอบกิจการให้เช่าเครื่องบินพร้อมลูกเรือ เจ้าของชื่อนายชาโควา ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทมาถึง 50 บริษัท แต่มีการมอบให้บริษัท Air west Georgia ซึ่งจดทะเบียนที่ตั้งที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เป็นผู้บริหารและถือเป็นเจ้าของสายการบิน นอกจากนี้นายชาโควายังเป็นกรรมการบริษัท เอสพี เทรดดิ้ง นิวซีแลนท์ ที่เช่าเหมาลำไปขนสินค้าที่เกาหลีเหนือ โดยมีการลงนามเช่าเหมาลำกันที่ฮ่องกง โดยบริษัท ยูทีเอ็มที่มีนายคาบีรอสเป็นเจ้าของซึ่งจดทะเบียนที่สเปนเป็นผู้ลงนามเช่าเหมาลำในวันที่ 4 ธันวาคม 2552
"ถ้าดูเผินๆ อาจคิดว่าไม่มีอะไรแต่ที่ผมไปค้นใบรับรอง กลับพบเลขรหัสเครื่องยนต์ของประเทศผู้ผลิต โดยจากการตรวจสอบเชิงลึกเครื่องบิน รหัส 003426765 พบเป็นเครื่องบินทหารที่เคยประจำการในกองทัพโซเวียตและยุคเปลี่ยนเป็นรัสเซีย ติดแผ่นเหล็กกันกระสุน จากนั้นโอนทะเบียนมาเป็นเครื่องบินพาณิชย์ของบริษัท แอร์เซส ยูเออี แล้วโอนต่อไปเป็นของบริษัท เซมทรายูเออี แล้วโอนมาเป็นของบริษัท ไซเบอร์ของคาซักสถานซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นของเจ้าพ่อค้าอาวุธระดับโลกชาวเซอร์เบียคนหนึ่งชื่อนายโทมิสลาฟ ดาเมนจาโลวิช ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่มอนเตเนโกร ก่อนที่สุดท้ายจะโอนเครื่องบินมาเป็นของบริษัท Overseas cargo ในปัจจุบัน ซึ่งในบรรดาบริษัทที่ถือครองเครื่องบินดังกล่าวในแต่ละช่วงนั้น มีจำนวน 3 บริษัทที่เป็นของนายบูท ถ้าศึกษาข้อมูลไม่ดี จะไม่รู้เวลาเข้าไปถามนายบูท นายบูทจะบอกความจริงครึ่งเดียว แล้วที่นายบูทรู้ตารางการบินของเครื่องบินลำดังกล่าว ก็เพราะมีลูกเรือคนหนึ่งที่มาติดคุกด้วยเป็นเพื่อนของนายบูทสมัยอยู่ ทอ.รัสเซียด้วยกัน" นายศิริโชคกล่าว