นายจตุพร แถลงว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่เคยกำหนดตัวบุคคลเจรจาใด ๆ กับรัฐบาล ที่นายสุเทพ
ระบุว่าเห็นชื่อคนเจรจาตามสื่อและหนักใจนั้น เป็นเรื่องที่นายสุเทพเข้าใจไปเอง การเริ่มต้นแบบนี้ปรองดองด้วยคำพูดแบบนี้ พวกตนก็หนักใจเหมือนกันที่จะมีคู่เจรจาแบบนาย สุเทพ หรือนายอภิสิทธิ์ การที่พรรคฯทอดสัมพันธไมตรีไปนั้น ไม่ได้เป็นขอทานการปรองดอง เพราะการปรองดองนั้นต้องเกิดกับบนพื้นฐานของความเสมอภาคและความยุติธรรม ไม่ใช่อยู่บนการเอารัดเอาเปรียบการใส่ร้ายกัน กรณีที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าหนักใจเรื่องคดีความนั้น ชี้ให้เห็นชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการเจรจานั้นเป็นการพูดเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น
“การเจรจาใด ๆ ต้องมีการรับผิดชอบกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงตั้งแต่ 10 เม.ย.-19 พ.ค. 53 ที่มีประชาชนเสียชีวิต 91 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 2,000 คน ดังนั้นการเจรจาใดก็ตามจะไปทรยศต่อผู้เสียชีวิตไม่ได้ คนเสื้อแดงจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเจรจา แต่การปรองดองนั้นผมไม่ยินยอมให้รัฐบาลเอาเรื่องนี้ไปเป็นข้ออ้างในการละเลยใด ๆ ต่อคนตาย เพราะวันนี้ 91 ศพ 91 คดี ยังไม่มีการชันสูตรพลิกศพแม้แต่เพียงศพเดียว ต้องถามใจนายกฯว่าที่แท้จริง ต้องการอะไร พวกผมไม่ได้ร้องขออะไร โดยเฉพาะเรื่องการนิรโทษกรรม”
นายจตุพร กล่าวต่อว่า วันที่ 17 ก.ย.นี้ ตนและคนเสื้อแดงจะนัดกันไปวางดอก กุหลาบสีแดงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
โดยไม่มีการชุมนุมหรือใช้เครื่องกระจายเสียง เป็นการไปเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งได้รับการปฏิบัติสองมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรม เมื่อเทียบกับคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ทราบว่าในวันนั้นจะมีคนไปกี่พันหรือกี่หมื่นคน แต่ตนขอเชิญชวนคนเสื้อแดงทั้งประเทศมาร่วมวางดอกกุหลาบ อย่างน้อยเพื่อต่อลมหายใจของพวกเราคนเสื้อแดง นอกจากนี้ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ ตนกับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี และรองประธานสภาคนที่สอง จะเดินทางไปร่วมงานศพของนายกฤษดา กล้าหาญ การ์ด นปช.เชียงใหม่ที่ถูกลอบฆ่าเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันและกันด้วย ถามว่าแสดงว่าไม่เห็นด้วยกับแผนการปรองดองของพรรคเพื่อไทย นายจตุพร ตอบว่า ตนไม่ขัดข้องเคารพมติของพรรคฯที่แถลงไป แต่ท่วงทำนองของนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และนายกอร์ปศักดิ์ ปฏิเสธการปรองดองแบบตัดเยื่อขาดใย เมื่อเริ่มต้นก็ใส่ร้ายเสียแล้ว จะเจรจาได้อย่างไร ซึ่งการเจรจาปรองดองนั้นต้องเริ่มเจรจาอย่างตรงไปตรงมา