นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม
ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้กระทรวงการต่างประเทศไปทำความเข้าใจกับสหรัฐอเมริกาและรัสเซียกรณีนายวิคเตอร์ บูท ว่า ดำเนินการอยู่แล้วและได้หารือกับทั้งสองประเทศมาโดยตลอดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งมีความอิสระ เป็นเอกเทศ และเป็นมืออาชีพ ทั้งนี้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศตนพูดกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาไปแล้วว่าการส่งเครื่องบินของสหรัฐฯ มาจอดรอเพื่อรับตัวนายบูท ที่สนามบินดอนเมือง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเพราะ ต้องเคารพในกระบวนการภายในของเราด้วย
"ทั้งสองประเทศต้องให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม รวมถึงศักดิ์ศรีของประเทศไทย ไม่ควรมาทำสิ่งใดที่เสมือนเป็นการมาบีบกัน ซึ่งดูไม่ดีต่อศักดิ์ศรีและความเป็นรัฐไทย ที่เขาต้องให้ความเคารพความเป็นอธิปไตยและกระบวนการทางกฎหมายของไทย เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่มิตรประเทศไม่ควรทำกัน"นายกษิตกล่าว
ส่วนกรณีที่นายศิริโชคเข้าพบนายบูท รวมถึงประเด็นที่นายจตุพรหมพันธ์ พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
ระบุว่าไทยยื่นเงื่อนไขแลกตัวบูทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้กลายเป็นเรื่องการเมืองในประเทศนั้น นายกษิตยืนยันว่า ไม่ใช่นโยบายรัฐบาลที่จะมายื่นหมูยื่นแมวระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายบูท โดยอยากให้เอาข้อเท็จจริงมาพูดกันมากกว่าไม่ใช่การโกหก เพ้อฝัน หรือคิดเองเออเอง เพราะทั้งเรื่องนายบูทและพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องการแลกเปลี่ยนทางการเมือง รัฐบาลทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการแทรกแซงและข้ามหน้าข้ามตากระบวนการยุติธรรม พูดแบบนั้นเสียหายอย่างมากต่อประเทศ ก
ด้าน นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนายบูท ว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีหนังสือหารือถึงนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด( อสส.) เกี่ยวกับขั้นตอนและข้อกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งจะต้องไปตรวจดูรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวก่อนว่าอัยการจะต้องพิจารณาและให้ความเห็นตอบกลับหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศเรื่องใดบ้าง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนการยื่นคำร้องถอนฟ้องนายบูท สำนวนที่ นั้น 2 ขอ ยืนยันว่ายังไม่มีการดำเนินการใด ๆ