ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี “วิค เตอร์ บูท” ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย เช้าวันเดียวกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลอยากขอชี้แจงคดีของนายวิค เตอร์ บูท ที่จะต้องมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สิ่งที่ตนอยากจะบอกคือความจริง การจับกุมหรือการเริ่มต้นคดีนี้นั้นเกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ แต่ในภาวะที่ทั้งอเมริกา และรัสเซียให้ความสำคัญกับคดีนี้มาก โดยที่รัฐบาลไทยยืนยันกับทั้งสอง ประเทศว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยจะไม่มีการให้ฝ่ายบริหารเข้าไปแทรกแซง ขณะเดียวกันการพิจารณาต่าง ๆ จะยึดถือกฎหมาย ภายในประเทศ สนธิสัญญาหลักสากล และคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินว่าคดีนี้เป็นคดีการเมือง จึงมีคำพิพากษาว่าไม่ต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ปรากฏว่าเมื่อศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา ให้ส่งตัวได้ ซึ่งตามกฎหมายต้องส่งตัวภายใน 3 เดือน
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีเรื่องของการเมืองหรือการที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงคดีนี้อย่างไรหรือไม่นั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาไม่มีใครมั่นใจเลยว่าการพิพากษาของศาลจะออกมาอย่างไร โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าฝ่ายบริหารเข้าไปแทรกแซง เพื่อที่จะเอาใจสหรัฐอเมริกาหรือแสดงความไม่พอใจกับรัสเซีย ขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่มีการยื่นขอตัว คดีในคดีที่ 2 ไป ซึ่งการยื่นเป็นที่ชัดเจนว่ายื่นไปเพราะมีความกังวลว่าศาลอุทธรณ์จะยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลผลประโยชน์ของประเทศอย่างดีที่สุด
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา
ติงพฤติกรรมของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิ ปัตย์ ที่เข้าพบนายวิคเตอร์ บูท ว่าไม่เหมาะสมว่า เป็นสิทธิของท่านที่จะแสดงความคิดเห็น ท่านเป็นผู้ใหญ่ตนไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ ถามว่าปัญหาของนายศิริโชคที่เข้าพบนายวิค เตอร์ บูท จนทำให้เป็นประเด็นการเมือง จะแก้ไขอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้องแก้อะไรอยู่เฉย ๆ นายศิริโชคไม่มีปัญญา ทำให้ศาลเปลี่ยนคำพิพากษาได้ ตนไม่หนักใจเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่นายศิริโชคต้อง รับผิดชอบคนเดียว พรรคไม่รับผิดชอบรัฐบาลก็ไม่เข้าไปวุ่นด้วยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนายศิริโชคเป็นคนสนิทของนายกฯนั้น แม้เป็นคนสนิทของนายกฯ เป็นคนสนิทของตน เป็นคนสนิทของใครก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า
พรรคเพื่อไทยต้องการทำให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีอยู่เบื้องหลังนายศิริโชค ในการเข้าพบนายวิคเตอร์ บูท ขอยืนยันว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรี ยืนยันล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริง โดยนายศิริโชคทำไปโดยพลการ นายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือให้ท้ายรวมถึงไม่ได้พยายามปกป้อง นายศิริโชค เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล ทั้งนี้คนที่อยู่ใกล้ชิดนายกมีบทบาท และสถานะที่แตกต่างกัน ไม่ว่าตนหรือนายศิริโชคต่างก็มีบทบาทของตัวเอง โดยในบทบาทที่ทำไปจะต้องรับผิดชอบเอง ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีต้องมารับผิดชอบถามว่าในฐานะมีตำแหน่งเกี่ยวกับ นายกฯแล้วเคยแถลงผิดพลาดจนกระทบกับตัวนายกฯมาแล้วจะแนะนำนายศิริโชคอย่างไร นายเทพไท ตอบว่า ก็ต้องรับผิดชอบส่วนบุคคล แต่คิดว่า นายศิริโชค ใช้สิทธิในฐานะ ส.ส.ไม่ใช่ในฐานะคนใกล้ชิดนายกฯ ถ้าใครคิดว่านายศิริโชค ทำไม่ถูกในฐานะ ส.ส. ก็ให้ไปดำเนินการตามช่องทางที่มีอยู่



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว