มาร์ค-เทือกถกโผนายพลตร.

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ
พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง หารือกับพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร. และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร. ว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นการหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. ที่ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งเป็นรอง ผบ.ตร. ตามที่พล.ต.อ.ชลอ ชูวงษ์ ที่ปรึกษาสบ 10 ยื่นฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)

วาระสำคัญคือการแจ้งให้ก.ตร.ทราบและพิจารณากรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2552 ที่แต่งตั้ง พล.ต.อ.วัชรพล ว่าจะพิจารณาดำเนินการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ รวมถึงแสดงความคิดหาแนวทางในเยียวยาแก่พล.ต.อ.ชลอ อย่างไรก็ตามคาดว่าอาจมีการพิจารณาถึงการจัดลำดับความอาวุโสของผู้ดำรงตำแหน่งยศ พล.ต.อ. ในตำแหน่งรองผบ.ตร.และที่ปรึกษา(สบ10) ให้เหมาะสมด้วย

นอกจากนี้จะพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บัญชาการ(รองผบ.ตร.) ลงไปถึงระดับผู้บัญชาการ(ผบช.) วาระประจำปี

ทดแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ และโยกย้ายสับเปลี่ยนหลายตำแหน่ง โดยช่วงเช้าวันเดียวกัน จะประชุมคณะกรรมการคัดเลือกหรือบอร์ดกลั่นกรอง ทั้งนี้ ในตำแหน่งรองผบ.ตร.ที่ว่างลง 6 ตำแหน่ง คือรองผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ 1 ตำแหน่ง และที่ปรึกษา(สบ10)ด้านสืบสวนอีก 1 ตำแหน่งนั้น คาดว่าจะมีการสไลด์ที่ปรึกษา(สบ10) 4 คน คือพล.ต.อ.ชลอ ชูวงษ์, พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส, พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เข้าสู่เก้าอี้หลักเป็น รองผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติ โดยเก้าอี้ตำแหน่งหลักอีก 1 ตำแหน่งนั้น คาดว่าจะขยับพล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ขึ้นมา โดยตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ที่จะว่างลงรวม 5 ตำแหน่งนั้น คาดว่าจะแต่งตั้งผู้ช่วยผบ.ตร.ที่มีความอาวุโสอันดับ 2-6 ขึ้นมา คือ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ, พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์, พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล, พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล และพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง

ขณะที่มีรายงานด้วยว่า สำหรับตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร.นั้น จะขยับขึ้นตามลำดับความอาวุโส

โดยผู้ช่วยผบ.ตร.ที่อาวุโสลำดับที่ 1-11 จะขยับขึ้นทั้งหมด ประกอบด้วย 1.พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ จตร. (สบ8) 2.พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 3.พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผบช.ศชต. ซึ่งได้สิทธิรับเวลาทวีคูณปฏิบัติราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้จาก ผบช.อาวุโสเบอร์ท้าย พุ่งมารั้งอันดับ 3 จ่อขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. 4.พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ ผบช.สกบ. 5.พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.สตม. 6.พล.ต.ท.อมรินทร์ อัครวงษ์ ผบช.รร.นรต. 7.พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สพฐ.ตร. 8.พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง จตร. (สบ 8) 9.พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.ศ. 10.พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผบช.สง.ผบ.ตร. และ 11.พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภาค 1

นอกจากนี้คาดว่าจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายหมนุเวียนหลายตำแหน่ง

อาทิ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รองผบช.ก. ขยับเป็นผบช.ก. โยกพล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. สามีนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก แกนนำพรรคประชาธิปัตย์กลับถิ่นเก่าไปเป็น ผบช.ภาค6 ขณะที่พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.นั้นอาจมีการสับเปลี่ยน ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้มีอำนาจโดยมีชื่อพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร.มาแทน แต่ทั้งนี้หากตำแหน่งผบช.น.ไม่เปลี่ยนก็อาจแต่งตั้งพล.ต.ท.จักรทิพย์ ไปเป็นผบช.ภาค 1

ทั้งนี้ คาดว่าแต่งตั้ง พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ที่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่ ผบ.ทบ. สนับสนุนไปเป็นผบช.สตม. ส่วน พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รอง ผบช.ภาค 8 ซึ่งได้สิทธินับเวลาทวีคูณปฏิบัติราชการใต้ ได้รับแรงสนับสนุนในพื้นที่เป็นผบช.ภาค 8 โดย พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช.สง.ก.ตร. โยกเป็นผบช.ภาค 7 ขยับ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภาค 7 เป็น ผบช.ภาค2 โดยพล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภาค2 ช่วยราชการสำนักงานผบ.ตร.กลับถิ่นเก่าเป็น ผบช.ตชด.

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์