เมียบูทพลิก-โต้เทปลับ

เมีย"วิกเตอร์"บูทพลิกนำคำพูดสามีเปิดแถลงข่าว เผยวอลเปเปอร์-ศิริโชค ดอดพบนายบูธในเรือนจำจริงเมื่อ 15 เม.ย.พร้อมแนะนำตัวเป็นผู้ช่วยนายกฯ เพื่อขอความเห็นสารพัดเรื่อง

ทั้งความเป็นไปได้ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะซื้ออาวุธให้กลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงวิธีสกัดเครื่องบินส่วนตัว และจำนวนอดีตเคจีบีในไทย แต่สามีตอบไปว่าไม่รู้และไม่เคยเกี่ยวข้อง ส่วน "เทปลับ" บันทึกบทสนทนาไม่เคยมี จากนั้นโชว์จ.ม.อ้างว่ารัฐบาลมะกันส่งถึงสถานทูตไทยไล่บี้ให้รีบส่งตัวนายบูท ด้าน "มาร์ค" ยอมรับหนักใจโดน 2 มหาอำนาจ "สหรัฐ-รัสเซีย" กดดัน ส่วนกระบวนการส่งตัวบูทให้สหรัฐนั้นต้องดูคำตัดสินของศาลเป็นหลัก "ตู่" ชี้อย่าหลงประเด็นเทปลับ เพราะต้องดูเจตนาว่านายศิริโชคหวังใส่ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณว่าเกี่ยวพันกับการค้าอาวุธหรือไม่ และใช้อำนาจอะไรเข้าไปพบนายบูท

จากกรณีศาลอุทธรณ์ตัดสินส่งตัวนายวิก เตอร์ บูท สัญชาติรัสเซีย อายุ 43 ปี กลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ขณะที่นายบูทยืนยันความบริสุทธิ์มาโดยตลอดว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธสงครามตามที่สหรัฐกล่าวหา ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแสดงท่าทีไม่พอใจ ชี้ว่าพลเมืองของตนถูกกลั่นแกล้งและมีการแทรกแซงศาลไทย ต่อมานายศิริโชค โสภา คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับเคยไปพบนายบูทในเรือนจำบางขวาง เมื่อ 11 เม.ย.2553 แต่เหตุที่ไปเพื่อหาข้อมูลตามหน้าที่ส.ส. เพราะช่วงเดือนธ.ค.2552 มีข่าวเครื่องบินจอร์เจียขนอาวุธเข้ามาในไทย แต่โดนจับกุมที่สนามบินดอนเมืองก่อนจะบินต่อไปยังศรีลังกา ซึ่งห้วงเวลาเดียวกันนั้นฝ่ายค้านศรีลังกาแถลงข่าวเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปศรีลังกาพอดี ตนจึงไปตรวจสอบข้อมูลกับนายบูทเนื่องจากสงสัยว่าอาวุธเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหตุ 10 เม.ย.2553 ที่สี่แยกคอกวัวหรือไม่ แต่ไม่ได้เข้าไปล็อบบี้ให้นายบูทใส่ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ และไม่น่าจะมีเทปลับบันทึกการสนทนาวันดังกล่าว

-"มาร์ค"คิดหนักค้านส่ง"บูท"

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีนายลักษณ์ นิติวัฒน์วิจารณ์ ทนายความนายวิกเตอร์ บูท ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธชาวรัสเซีย จะทำหนังสือถึงนายกฯ ขอให้ช่วยคัดค้านการส่งตัวนายบูทไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา โดยอ้างข้อกฎหมายในสนธิสัญญาว่าผู้ต้องหาสามารถเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของประเทศนั้นๆ ยับยั้งการส่งตัวได้ ว่า ถ้ายื่นเรื่องมา ต้องดูก่อนว่ามีเหตุผลอะไร แต่โดยหลักกฎหมายระหว่าง ประเทศ ฝ่ายบริหารเป็นผู้ใช้ดุลพินิจเป็นลำดับสุดท้าย ขณะเดียวกันการใช้ดุลพินิจของฝ่ายบริหารนั้นส่วนใหญ่ทำกันในช่วงก่อนศาล

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราควรต้องดูจากกระบวนการและคำตัดสินของศาลเป็นหลัก ควรให้กระบวนการของศาลจบสิ้นก่อน แต่ถ้าเขามีเหตุอะไรก็เสนอมา ปกติแล้วมักให้น้ำหนักกับคำวินิจฉัยของศาล ตนเข้าใจว่าการดำเนินการขณะนี้น่าจะเป็นเรื่องของคดีที่ 2 ซึ่งสหรัฐได้แจ้งเรื่องถอนคดีนี้ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศที่จะส่งเรื่องต่อไปยังอัยการ จากนั้นอัยการจะทำเรื่องถึงศาล ขณะเดียวกันฝ่ายจำเลยอาจคัดค้าน และศาลเป็นผู้ใช้ดุลพินิจว่าจะให้ถอนคดีหรือไม่ ถ้าไม่ให้ถอนคดี ต้องให้นายบูทถูกคุมขังอยู่ที่ประเทศไทยต่อไปเพื่อดำเนินคดีที่ 2 และจะมีประเด็นว่าต้องขยายกำหนดเวลา 3 เดือนหรือไม่ ทั้งนี้ ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่ 2 พร้อมกันวันที่ 4 ต.ค.นี้ แต่ตนไม่ทราบว่าศาลจะพิจารณากรณีที่มีการขอถอนคดีดังกล่าวอย่างไร

-หนักใจ"มะกัน-หมี"กดดัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายความนายบูทขู่ว่า ถ้าส่งตัวนายบูทไปดำเนินคดีแล้วถ้าศาลสหรัฐตัดสินว่าไม่มีความผิด นายบูทจะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่มีประเด็นนี้ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ตนยืนยันว่าไทยเคารพสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงดำเนินการทุกอย่างด้วยความตรงไปตรงมา และคำนึงถึงผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียวิจารณ์ว่าการตัดสินในไทยถูกสหรัฐแทรก แซง นายกฯ กล่าวว่า คงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ตนคิดว่าสิ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ได้ดีว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น คือถ้าสหรัฐเข้ามาแทรกแซง กดดัน และมั่นใจว่าชนะคดี เหตุใดเขาจึงยื่นคดีที่ 2 เพราะเขารู้ว่าการยื่นคดีที่ 2 จะทำให้ยังไม่สามารถส่งตัวในคดีแรก ทั้งนี้ ต้องทำความเข้าใจกับฝ่ายรัสเซียมากขึ้น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงไประดับหนึ่งแล้วเมื่อ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยเราอาศัยเวลาหาข้อยุติในคดีที่ 2 ในการทำความเข้าใจพร้อมกัน ถ้าฝ่ายใดยังติดใจในเรื่องใด สอบถามและตรวจสอบได้

"เราหนักใจเพราะทั้งสหรัฐและรัสเซียเป็นมิตรประเทศที่มีความสำคัญ แต่เราต้องชี้แจงตามความเป็นจริงให้ดีที่สุด เพราะความเป็นจริง ฝ่ายบริหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่ากลัวเรื่องกระบวนการใต้ดินชิงตัวนายบูทหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราดูแลนายบูทเต็มที่ และตนกำชับกรมราชทัณฑ์ว่าต้องดูแล แต่ความสับสนนั้น ต้องพยายามแก้ไขกัน เช่น การที่ฝ่ายค้านกล่าวหาเรื่องนี้ ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้มีมูลความจริง แต่กลับสร้างความสับสนเพิ่ม ตรงนี้ต้องใช้เวลาแก้ไข

-"เทือก"แจงทำตรงไปตรงมา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนายบูทที่ขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเพราะกลายเป็นประเด็นตอบโต้ทางการเมือง ว่า ที่จริงไม่มีอะไรใหญ่โต เมื่อนายบูทถูกจับก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของเรา เมื่อศาลมีคำสั่งอย่างไรต้องปฏิบัติตามนั้น ที่เหลือเป็นเรื่องไปต่อเติมกันเอง เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่าประเทศไทยไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวเพราะผู้ต้องหาเป็นที่ต้องการตัวของทั้งสหรัฐกับรัสเซีย อาจมีผลกระทบสะท้อนมาถึงไทย นายสุเทพ กล่าวว่า เราไม่ได้สร้างปัญหา แต่ปัญหามันเกิดเองจะให้ทำอย่างไรได้ ยอมรับว่ายากที่จะทำให้ทั้งสองประเทศพอใจ แต่เมื่อทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นเหตุผลที่เขาต้องเข้าใจ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคสนับ สนุนแนวทางของรัฐบาลว่าแนวทางที่ดีที่สุดที่จะรักษาความสัมพันธ์กับมิตรประเทศทั้งสหรัฐและรัสเซีย คือยึดหลักของกฎหมายไทยเป็นที่ตั้ง ซึ่งมิตรประเทศทุกประเทศย่อมให้ความเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศ ขณะเดียวกันข้อตกลงระหว่างประเทศก็เป็นบรรทัดฐานในการดำเนินการต่อกรณีกล่าว ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากผู้ต้องหาที่มีสัญชาติใด และข้อตกลงสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศใด ไม่ได้เฉพาะกับสหรัฐและรัสเซีย พรรคยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย ไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองโดยเด็ดขาด

-ปชป.ยันไม่ได้ใส่ร้าย"แม้ว"

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปพบนายบูทถึงเรือนจำนั้น เมื่อฝ่ายค้านหยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นมา ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ปิดบัง และการทำหน้าที่ไปเข้าพบผู้ต้องหากระทำโดยเปิดเผยไม่ได้เป็นความลับ ตามกฎของกรมราชทัณฑ์บันทึกไว้โดยตลอด และมีการแถลงต่อสภาทันทีโดยไม่มีความพยายามที่จะปิดบัง ส่วนกรณีที่มีความพยายามจะโยงเรื่องนี้เข้ากับความเห็นทางการเมือง อยากให้ผู้ที่พยายามสร้างความเข้าใจผิด เอาหลักฐานมายืนยัน เพราะนายศิริโชคยืนยันแล้วว่าไม่มีความลับ แต่สาระในการเข้าพบไม่ได้เป็นไปตามที่นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวหา เรื่องนี้ข้อเท็จจริงจะปรากฏได้ต่อเมื่อมีการตอบคำถามที่สังคมควรรับรู้ใน 3 เรื่อง คือ 1.มีการบันทึกเทประหว่างการเข้าพบหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีความขัดแย้งกันอยู่ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2.ผู้เข้าร่วมพบนายบูทมีใครบ้าง เพราะนายจตุพรได้อ้างถึงภรรยาของนาย วิกเตอร์ บูท และคอลัมนิสต์

น.พ.บุรณัชย์ ระบุด้วยว่า 3.กรณีนายจตุพร กล่าวหารัฐบาลพยายามดำเนินการเรื่องนี้เพื่อโยงให้ถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ขอยืนยันว่าไม่ว่าพรรคหรือรัฐบาลไม่มีใครกล่าวหาพ.ต.ท. ทักษิณ และนปช. ว่าเกี่ยวข้องกับอาวุธที่ยึดมาได้ และเรื่องการจับเครื่องบินขนอาวุธนั้นคนที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงได้คือพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะต้องยืนยันว่าหากข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทำไมไม่มีการดำเนินการตามกฎ หมายกับประเทศศรีลังกาที่เปิดข่าวเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏสังคมจะใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูได้ โดยเฉพาะนายจตุพรและนายศิริโชค จะต้องมีคนหนึ่งพูดจริงและอีกคนพูดเท็จ

-"เทพไท"แถลงป้องนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้กรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่นายศิริโชคเข้าพบนายบูทในเรือนจำว่า ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตัวนายกฯ อย่างไร เพราะนายศิริโชคยืนยันแล้วว่าเป็นการกระทำส่วนตัวในฐานะส.ส. นายกฯ ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ ดังนั้น คงไม่เป็นธรรมที่จะให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบในเรื่องส่วนตัวของบุคคลใกล้ชิด เพราะบุคคลเหล่านั้นไม่ได้กระทำในฐานะตัวแทนนายกฯ ถ้าคนใกล้ชิดไปมีพฤติ กรรมซ้อมภรรยาจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่

นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนที่ระบุว่าคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะหาช่องทางยื่นให้องค์กรต่างๆ ตรวจสอบการกระ ทำของนายกฯ ตนอยากถามว่าจะใช้บทบัญญัติของกฎหมายใดที่มาเอาผิด หากจะตรวจสอบการกระทำของนายศิริโชคก็เป็นอีกเรื่อง แต่อย่านำมาปะปนจนคนสับสนกับตัวนายกฯ และไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยใช้วิธีการเดิมๆ เดาสุ่มหรือเหวี่ยงแห ใส่ร้ายบุคคลอื่นว่าได้กระทำผิดและผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่กล่าวหา โดยส่วนตัวเชื่อว่านายศิริโชคมีเจตนาดีและเป็นวิธีการทำงานของนายศิริโชค และเข้าไปขุดคุ้ยล้วงลึกข้อมูลเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง ถ้าจะเอาผิดนายศิริโชคก็ต้องไปดูว่าได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการกระทำผิดหรือไม่ เพราะถือเป็นการใช้สิทธิ์ของส.ส.

-พท.ซัดรบ.ไร้ความสามารถ

เวลา 14.20 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ไม่สามารถสร้างความสมดุลในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจระหว่างรัสเซียกับสหรัฐ อเมริกาได้ ยอมเป็นเครื่องมือจับกุมนายบูท พ่อค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และการจับกุมเครื่องบินขนอาวุธที่ขอลงจอดเติมน้ำมัน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วประเทศไทยสามารถปฏิเสธการลงจอดเติมน้ำมันของเครื่องบินดังกล่าวได้ ส่วนนายวิกเตอร์นั้นก็สามารถให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เข้าประเทศไทยปัญหาก็จะหมดไป เรื่องนี้ยิ่งไปกันใหญ่กรณีที่ส่งนายศิริโชค ซึ่งเป็นคนสนิทนายกรัฐมนตรีเข้าไปพัวพันกับนายบูท ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของส.ส. และยังอยู่ในขั้นตอนของศาล ขณะนี้ทั้งประเทศรัสเซียและสหรัฐจึงเกิดความระแวงต่อรัฐบาลไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจนในเรื่องนี้

"การค้าอาวุธข้ามชาติเป็นเรื่องความมั่นคง เหตุใดนายกฯ ไม่มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบ พรรคเพื่อไทยอยากฟังความเห็นของสภาความมั่นคงแห่งชาติว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร และจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้รับจดหมายจากข้าราชการต่างประเทศร้องเรียนว่า ขณะนี้มีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศมอบนโยบายว่าเลิกใช้ระบบอาวุโสในกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องนี้เป็นความจริงเพียงใด ขอให้รัฐมนตรีชี้แจงกรณีนี้ด้วย" นายปลอดประสพ ระบุ

-"ตู่"ชี้อย่าหลงประเด็น"เทปลับ"

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนเพื่อไทย และแกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์ว่า เมียวิกเตอร์ บูท ไม่มีเทปลับบันทึกเสียงนายศิริโชค อย่าเอาเรื่องเทปลับมาเป็นประเด็น หากดูดีๆ จะเห็นว่าเป็นเพียงรายงานข่าวที่ไม่มีใครพูดจริงจังและตามกฎของกรมราชทัณฑ์การจะเข้าไปในเรือนจำแม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ห้ามเข้าไป แล้วจะไปบันทึกเทปได้อย่างไร ตนคิดว่าอย่าหลงประเด็น เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าเทปลับมีหรือไม่ แต่อยู่ที่นายศิริโชคเข้าไปในเรือนจำเพื่อพูดคุยกับนายบูท โดยภรรยาบูทก็ยอมรับว่าไปถามเรื่องเครื่องบินขนอาวุธว่าเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ดังนั้น แสดงให้เห็นเจตนาชัดเจนที่จะใส่ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณว่าเกี่ยวพันกับการค้าอาวุธ

นายจตุพร กล่าวว่า หากดูวันเวลาที่นายศิริโชคไปพบ คือวันอาทิตย์ที่ 11 เม.ย.53 จะเห็นว่าเป็นวันหลังเกิดเหตุการณ์กระชับพื้นที่สี่แยกคอกวัวจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน เรื่องนี้จึงเป็นความพยายามแก้เกมของนายศิริโชค อยากถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่าปกติวันอาทิตย์ยังห้ามญาติเข้าไปเยี่ยมและยิ่งเป็นช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ อธิบดีใช้อำนาจอะไรอนุญาต หรือเป็นเพราะนายศิริโชคเป็นคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี เพราะหากเป็นส.ส. ธรรมดาก็คงเข้าไปไม่ได้ ดังนั้น เทปลับไม่มีความสำคัญอะไร อยู่ที่ว่านายศิริโชคใช้อำนาจอะไรเข้าไปพบ และเนื้อหาที่พูดใส่ร้ายพ.ต.ท. ทักษิณชัดเจน

-"เมียบูท"พลิก-ไม่มีเทปลับ

เวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ (เอฟซีซีที) กทม. นางเอลล่า บูท ภรรยาของนายวิกเตอร์ บูท แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตนไม่ได้อัดเทปลับการสนทนาระหว่างสามีและนายศิริโชค พร้อมขอร้องสื่อมวลชนให้เลิกถามเรื่องนี้กับตน เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว

นางเอลล่าเริ่มต้นการแถลงข่าวด้วยการอ่านถ้อยแถลงของนายบูท ผู้เป็นสามีที่เขียนด้วยภาษารัสเซีย พร้อมมีลายเซ็นนายบูทกำกับ โดยมีล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ผู้สื่อข่าวฟังอีกทอดหนึ่ง พร้อมระบุว่า นายบูทต้องการเปิดแถลงข่าวในครั้งนี้เพราะสื่อให้ความสนใจในคดีที่เกิดขึ้นสูงมาก นอกจากนั้น ยังมีเรื่องเท็จกระจายออกไปมากมาย ถ้อยแถลงนี้เขียนขึ้นตามคำบอกเล่าของนายบูท จึงถือว่าเป็นคำพูดของนายบูทเอง

นางเอลล่า แถลงต่อว่า นายบูท เผยว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายศิริโชคเรียกตัวไปเข้าพบในห้องทำงานฝ่ายบริหารของเรือนจำแล้วแนะนำตัวว่าเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคการเมืองหนึ่ง จากนั้นนายศิริโชคนำหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งให้ตนดู ภายในเป็นข่าวการจับกุมเครื่องบินที่บรรทุกอาวุธสงครามจากเกาหลีเหนือไปยังศรีลังกา แต่ถูกตำรวจไทยตรวจค้นและจับกุมได้เพราะแวะเติมน้ำมัน พร้อมขอความเห็นในฐานะผู้เชี่ยวชาญว่าจะเป็นไปได้ไหมที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจ่ายเงินและนำอาวุธเหล่านี้มาให้แก่มวลชนเสื้อแดงก่อความไม่สงบ ตนตอบปฏิเสธว่าไม่รู้ และกล่าวว่า ตนไม่มีความเกี่ยวข้อง

จากนั้นนายศิริโชคนำเลขประจำเครื่องบินส่วนตัวของอดีตนายกฯ ทักษิณมาให้ดูอีก พร้อมถามว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถจับสัญญาณหรือจับกุมเครื่องบินลำนี้ได้ ตนกล่าวว่า ตนไม่รู้เพราะเครื่องบินนี้ถือสัญชาติอเมริกัน ฉะนั้น นายศิริโชคควรไปถามฝ่ายอเมริกันเอาเอง จากนั้นนายศิริโชคถามว่ามีความเห็นอย่างไรที่หลายประเทศบ่ายเบี่ยงการส่งตัวอดีตนายกฯ กลับประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ตนตอบว่าไม่ทราบ รู้เพียงว่าอดีตนายกฯ พ้นจากตำแหน่งเพราะการรัฐประหาร จากนั้นถามว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอดีตเคจีบีอยู่กี่คน ตนตอบว่าไม่รู้เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยว ก่อนเลิกพูดคุยกันนายศิริโชคถามว่า ทราบอาการป่วยของอดีตนายกฯ หรือไม่ ตนตอบว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวจึงตอบไม่ได้

-อ้างสหรัฐส่งหนังสือบี้ทูตไทย

ในส่วนของคดีความ นายบูทปฏิเสธข้อหาค้าอาวุธเถื่อนและก่อการร้าย ระบุว่าไม่เคยข้องเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย ความเข้าใจผิดเกิดขึ้นเพราะนักข่าวสองสามคนที่มักเขียนข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐที่ยกเมฆขึ้นทั้งหมด ตนเคยมีธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจริงแต่ปิดตัวลงในปี 2544 เนื่องจากขาดทุนอย่างหนัก จากนั้นจนถึงปี 2551 ตนอาศัยอยู่ที่กรุงมอสโก เมืองหลวงรัสเซียตลอด เคยเดินทางออกต่างประเทศเพียง 4 ครั้ง ล่าสุด คือการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย

นอกจากนั้น นายบูทยังปฏิเสธความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรองนายกฯ รัสเซีย และยืนยันว่า ตนไม่ได้กำความลับของรัสเซียอย่างที่สื่อหลายสำนักประโคมข่าว ด้านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ไทย นายบูท กล่าวว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก เนื่องจากคำตัดสินขัดกับกฎหมายของประเทศไทยเองหลายจุด ขณะนี้กำลังมอบหมายให้ทนายรวบรวมสำนวน ไม่อยากพูดอะไรมาก

ด้านนางเอลล่า กล่าวถึงชีวิตส่วนตัวว่า ตลอด 20 ปี ที่ใช้ชีวิตร่วมกับนายบูท รู้จักนายบูท อย่างลึกซึ้งและเชื่อว่าเป็นคนดีเสมอมา แต่ 10 ปีหลังมานี้นายบูทถูกสื่อและรัฐบาลหลายประเทศข่มเหงจนกลายเป็นปีศาจในสายตาชาวโลก จากนั้นนางเอลล่าโชว์จดหมายที่อ้างว่ารัฐบาลสหรัฐส่งถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐก่อนการตัดสินคดี 1 วัน ภายในมีเนื้อหากดดันให้ส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท มายังสหรัฐ และว่า นี่เป็นหลักฐานชั้นดีว่าคดีนี้เป็นเกมการเมือง และสหรัฐกำลังใช้อิทธิพลครอบงำประเทศไทย

-เคยบอกสื่อนอกมี"เทปลับ"

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นางเอลล่าเคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่งบริเวณหน้าเรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี โดยยืนยันว่า นายศิริโชคมาพบนายบูท ทั้งคู่พูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งวันนั้นนางเอลล่าก็อยู่ด้วยขณะที่ทั้งสองสนทนากัน แต่ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้มาก เนื่องจากไม่ได้สันทัดภาษาอังกฤษมาก หากอธิบายออกไปเกรงว่าจะทำให้ความหมายในการสนทนาระหว่างทั้งคู่ผิดเพี้ยน แต่ได้บันทึกเทปการสนทนาเอาไว้อย่างละเอียดทุกคําพูด และจะนำไปให้บริษัทรับแปลภาษาที่ประเทศรัสเซียแปล ก่อนจะมาเผยแพร่ให้ทราบ เพราะต้องระวังเรื่องความปลอดภัย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์