เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 9 พ.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินรายการสถานีวิทยุออนไลน์ Thaksinlive Radio
ซึ่งเป็นโปรแกรมถ่ายทอดเสียงลงเว็บไซต์ www.thaksinlive.com ว่า ขณะนี้อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ตนขอชี้แจงกรณีไทม์ ที่ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ แล้วพาดหัวข่าวเลวมาก ตนต้องกราบขอพระราชทานอภัยโทษพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และขอโทษคนไทยทุกคน ยืนยันว่าการให้สัมภาษณ์เป็นไปด้วยความจงรักภักดี ปกป้องสถาบัน กับทุกๆพระองค์ ตรงนี้ถือเป็นประเพณีของสื่อที่พาดหัวข่าว ตนเสียหายและเสียความรู้สึก เพราะไม่เคยมีความรู้สึกที่ไม่จงรักภักดีกับสถาบัน แม้วันนี้ไม่ได้อยู่แผ่นดินแม่ ความรู้สึกนี้ก็ไม่เคยเสื่อมคลาย ตนถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีโดนทุกวัน ไม่รู้โดนเพราะอะไร วันนี้ก็มาเจอเรื่องไม่รักชาติอีก ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะไม่เช่นนั้นคงไม่เลือกเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
"วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ กำลังหาเรื่องเอาประเด็นเรื่องการสืบราชสันติวงศ์มาเล่น ซึ่งเรื่องนี้ผมพูดตามหลักกฎมณเฑียนบาลไม่ได้คิดอะไร ไม่มีอารมณ์หรือไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีอะไรเลย เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยได้กราบพระบาททสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมัยเป็นนายกฯตอนที่ท่านประชวน ว่า ขอให้พระองค์ทรงมีอายุเท่าพระอานนท์คือ 120 ปี เพราะทรงเป็นศูนย์รวมคนไทยทั้งประเทศ ผมไม่บังอาจไปพูดเรื่องพระสุขภาพ ซึ่งก่อนเดินทางมากัมพูชา ผมได้ทำพิธีไหว้พระวิญญาณของพระบูรพมหาษัรตย์ที่บ้านที่บรูไน ให้ทรงมีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว "พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังระบุด้วยว่า ตอนช่วงสัมภาษณ์ไทม์ตนก็ย้ำไปแล้วว่าขอให้ระมัดระวังเพราะคนไทยรักพระเจ้าอยู่หัวมากและพระองค์ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเด็ดขาด
ดังนั้นเวลาไปสรุปอะไรต้องทำดีๆ ซึ่งเขาก็บอกว่าเข้าใจ แต่ก็ออกมาแบบนี้ถือว่าเป็นการพาดหัวที่เลวมาก ซึ่งได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้วโดยเขากำลังรับแก้ไขภายใน1-2 วันนี้ “วันนี้แม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่บนแผ่นดินแม่ แต่ผมก็มีความรักชาติ รักทุกพระองค์ ดังนั้นขอร้องอย่าเอาเรื่องนี้มาโจมตี เพราะต่างชาติไม่เข้าใจ ผมยืนยันว่าไม่มีวันทรยศชาติ ทรยศต่อราชบัลลังก์ ในฐานะลูกผู้ชาย และเป็นอดีตนายกฯถึง 6 ปี” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวและว่า กล่าวถึงการรับตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชาว่า ฟังแล้วเศร้า ซึ่งตนก็ภูมิใจที่เขาเห็นความรู้ ความสามารถที่จะช่วยเขาได้ นอกจากความสนิทสนมคุ้มเคยกับท่านฮุนเซน เศรษฐกิจวันนี้ต้องเติบโตไปด้วยกัน ถ้ากัมพูชาหายจนเขาก็จะซื้อสินค้าไทย ไม่มีการปล้นสะดม เรียกค่าไถ่ วันนี้ต้องอยู่ที่วิธีคิด ทำไมเราจะเป็น “ผู้ให้”ไม่ได้ ไม่ใช่ไปเอากับเขาอย่างเดียว
“ผมแยกออกระหว่างความเป็นคนไทย กับความเป็นเพื่อนกับท่านฮุนเซน เพื่อนก็คือเพื่อนแต่ความเป็นสถาบัน ความรักชาติ ความรักเพื่อนต้องแยกออกจากกันพวกท่านไม่ต้องมาวิตกหรือมาปลุกกระแสชาตินิยม ผมไม่มีทางทำให้ชาติเสียหายหรือเอาความลับอะไรมาขาย มันไม่ใช่วิสัยของผมเพราะผมไม่มีเรื่องเห็นแก่ตัวอะไร ชีวิตผมผ่านอะไรมาเอยะ อย่าคิดว่าเป็นคนเลวอะไร วันนี้พวกคุณจะเอายังไงกับผมอีกยศก็จะถอด เครื่องราชย์ก็จะเอาคืน พาสปอร์ตก็ยึดไปแล้ว ยังมาตามไล่ล่ากันอีก ถ้าพวกคุณมั่นใจก็ยุบสภา เลือกตั้งใหม่เพราะวันนี้อยู่ไปก็ไม่สง่างามหรอกเพราะปล้นเขามาโดยใช้พวกอำมาตย์” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอย่างมีอารมณ์