นายกฯ บุกอ.พิบูลมังสาหาร มอบเงินชดเชย 4.9 ล้าน อ้างเก็บน้ำห้วยละห้า ยายไฮ-9สมัชชาคนจนผู้กสายสิญจ์บายศรีสู่ขวัญต้อนรับ อวยพรให้เจริญรุ่งเรื่อง พัฒนาประเทศให้รุ่งเรือง พร้อมจัดรายการเชื่อมั่นประเทสไทยฯ กลางวงพิธี ขณะที่เสื้อแดงถูกเจ้าหน้าที่กันไม่ให้เข้าไปสร้างความวุ่นวาย ที่ห้องรับรองท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 10 ตุลาคม
นายอิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อไปมอบเงินชดเชยให้นางไฮ ขันจันทา หรือยายไฮที่เรียกร้องค่าชดเชยในการเสียโอกาสทำนาจากการได้รับผลกระทบการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยละห้า
ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางผู้สื่อข่าวได้ถามกรณีที่จะเสนอชื่อนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ
ภายหลังนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุข ไปเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่านายไตรงค์จะได้เป็นรองนายกฯแน่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หันมาตอบผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ยังไม่ได้เสนอเข้ากรรมการบริหารพรรคเลย" จากนั้นก็รีบเดินหนีไปทันที ต่อมาเมื่อเวลา 08.10 น. นายอภิสิทธิ์ และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานกองบิน21 จังหวัดอุบลราชธานี ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมต่อต้าน แต่ยังไม่พบว่าคนเสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด โดยมี นายชวน ศิรินันท์พร ผ้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีพรัอมข้าราชการ ตำรวจ ทหาร หน่วยงานภาคเอกเช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีได้ไปรอต้อนรับพร้อมกับมอบช่อดอกไม้ให้กับนายกรัฐมตรี
ขณะที่นางเพ็ญพัก ศรีทอง ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีมีเรื่องสำคัญรวม 3 เรื่อง คือ
ขอให้มีการก่อสร้างถนน 4 ช่อง จราจร จากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์มาถึง บ่านหนองงูเหลือม อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี สร้างศุนย์ประชุมขนาดใหญ่ และสร้างหอพิพิธภัทณ์เทียนพรรษาให้กับจังหวัดอุบลราชธานี หลังจากนั้นเวลา 08.25 น. นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเตรียมเอาไว้จำนวน 5 ลำเดินทางไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านที่อำเภอโขงเจียม
นายกฯจ่าย4.9ล้านชดเชยอ่างเก็บน้ำห้วยละห้า
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 07.50 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มคนเสื้อแดง จาก 4 จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร อุดรธานี และอุบลราชธานี ซึ่งชุมนุมกันอย่ที่บริเวณหน้าศาลากลางได้ขึ้นรถยนต์จำนวน 80 คัน จำนวน 1,500 คน ออกจากตัวหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าไปยังอำเภอพิบูลมังสาหาร เพื่อไปพบนายกรัฐมนตรีด้วย
ต่อมา เมื่อเวลา 08.45 น. เฮลิคอปเตอร์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงจอดที่สนามโรงเรียนบ้านวังสะแบง ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
เพื่อเป็นประธานมอบเงิน 4.9 ล้าน เป็นค่าเยียวยาทดแทนให้กับยายไฮ โดยนายอภิสิทธิ์ ได้นั่งรถยนต์เดินทางต่อเข้าไปที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน จุดนัดพบในการมอบเงินค่าชดเชยให้กับ ยายไฮ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 500 เมตร โดยมีรถในขบวนประมาณ 30 คน
เมื่อไปถึง นายอภิสิทธิ์ ได้ลงรถ แล้วตรงเข้าไปวางพวงมาลัยสักการะอนุสาวรีย์คนจน ด้านหน้าศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน
ก่อนเดินชมพิพิธภัณฑ์บริเวณชั้น 1 ของศูนย์ดังกล่าว ซึ่งรวบรวมความเป็นมาของกลุ่มสมัชชาคนจน โดยมี นายอิสสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.แบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกลุ่มสมัชชาคนจนกว่า 200 คน คอยต้อนรับ ก่อนเดินขึ้นไปที่หอประชุมชั้น 2 ของศูนย์ ซึ่งยายไฮ และ กลุ่มสมัชชาคนจน ได้จัดเตรียมเครื่องบายศรีสู่ขวัญต้อนรับ โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ยกมือไหว้ทักทายยายไฮ และชาวบ้านที่มาคอยต้อนรับ พร้อมทักทายยายไฮ ว่า "เราเคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่งในทีวี" ก่อนที่ ยายไฮ และตัวแทนกลุ่มสมัชชาคนจน รวม 9 คน ได้นำสายสิญจ์ที่พราหมณ์ทำพิธีมาผูกอวยพรให้ นายอภิสิทธิ์ โดยอาศัยหลักเลขมงคลเลข 9 เพื่อให้ มีความเจริญก้าวหน้า พัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองต่อไป
จากนั้นตัวแทนกลุ่มสมัชชาคนจน จึงได้มอบหนังสือข้อเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาต่างๆ ของภาครัฐ กว่า 100 โครงการให้กับมือ นายอภิสิทธิ์
ก่อนที่จะบันทึกเทปรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับ นายกฯอภิสิทธิ์" ซึ่งอยูาในกลางวงพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยมีอาจารย์นพพร พันธ์เพ็ง นักจัดรายการวิทยุชื่อดังของชาวอุบลราชธานี เป็นผู้ดำเนินรายการ ในฐานะตัวแทนชาวอุบลราชธานี ซักถามนายกฯ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวอุบลราชธานี ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเดินทางมาถึงศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ของนายกรัฐมนตรี เป็นไปด้วยดี
โดยไม่พบกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจาก ถูกกันให้อยู่ห่างจากพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 4 กม. มีกำลังตำรวจดูแลความสงบของการชุมนุมอย่างหนาแน่น ในทุกเส้นทางที่จะเข้าสู่ศูนย์แห่งนี้ จะมีการตั้งจุดตรวจรถเข้าออกทุกคัน อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถเล็ดลอดเข้ามาสร้างความวุ่นวายได้