นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 กล่าววันนี้ (10 มี.ค.) กรณีสถาบันพระปกเกล้า รับเป็นเจ้าภาพกำหนดรูปแบบการปฏิรูปการเมือง ว่า
ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากการปฏิรูปการเมืองเป็นเรื่องของคนในสังคมที่หลากหลายและต้องช่วย กันคิด การมอบให้สถาบันหนึ่งสถาบันใดรับเป็นเจ้าภาพคงไม่เหมาะสม ต้องยอมรับว่าหากให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ แทนที่การปฏิรูปจะมุ่งสู่ระบบประชาธิปไตย เพื่อประชาชน อาจจะเป็นระบบอมาตยาธิปไตยมากกว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากรัฐบาล มีความจริงใจควรสรรหาผู้ที่เหมาะสมมาทำแทนโดยทำในลักษณะของสภาร่าง รัฐธรรมนูญ เหมือน ในสมัยที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ไม่เห็นด้วยหากจะต้องมีการทำประชามติเพื่อหาผู้รับผิดชอบการปฏิรูป การเมือง เพราะขณะนี้ประเทศชาติ ก็แย่พออยู่แล้วคงไม่เหมาะสมหากจะต้องเสียเงิน 2,000 ล้าน เพื่อทำประชามติ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า
กลุ่ม นปช.จะไม่ร่วมงานกับ คณะกรรมการอิสระเพื่อศึกษาพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง แม้ว่า จะมีการให้ตัวแทน นปช. 1 ตำแหน่ง เพื่อเข้ารูปปฏิรูปทางการเมืองเนื่องจาก กระบวนการสรรหา ผิดมาตั้งแต่เริ่ม และไม่มีความไว้วางใจ คณะกรรมการของสถาบันพระปกเกล้าเนื่องจาก หลายคนมีตำแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงรัฐประหาร รวมทั้งรัฐบาลหมดความชอบธรรม การปฏิรูปครั้งนี้เป็นการยื้อเวลาของรัฐบาล เป็นการปัดสวะปัญหาการเมือง ให้สถาบันพระปกเกล้า
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธปัตย์ แกนนำ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังไม่ตัดสินใจจะเข้าร่วมในการปฏิรูปการเมืองหรือไม่ ต้องมีการประชุมร่วมกันกับ 4 แกนนำก่อน ขณะที่ นายพิภพ ธงไชย แกนนำ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การปฏิรูปถือเป็นสิ่งดี อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่า คณะกรรมการอิสระเพื่อศึกษาพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง มีความจริงใจแค่ไหน หากไม่สามารถปฏิรูปได้จริง คงถึงเวลาที่ต้องตั้งพรรคการเมืองของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า กล่าวภายหลังรับหน้าที่เป็น ประธานโครงการศึกษาเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง ว่า
ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดการทำงานได้ เนื่องจากต้องขอหารือเรื่องกรอบการทำงาน รวมทั้ง การคัดเลือกรรมการที่จะเข้ามาร่วมกันทำงาน กับ นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า โดยมีการนัดหมายหารือกันไว้ที่ สำนักงานสภาพัฒนาการทางการเมือง