โทนี่ ซัดรัฐบาลเปิดประเทศไร้หลักคิด ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม

 โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ "7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโหลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ ?"

ช่วงหนึ่งของการพูดคุย โทนี่ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศเดือน พ.ย. ที่จะถึงว่า ขอชื่นชมความมุ่งมั่นของนายกฯ ที่ทำจริง ๆ ตนบอกจะเปิดประเทศใน 180 วัน แต่ท่านบอกจะเปิดประเทศใน 120 วัน

แต่ตอนที่ตนบอกว่าจะเปิดประเทศ 180 วันนั้น ต้องทำหลายเรื่องทั้งเรื่องวัคซีนให้เรียบร้อย ฉีดครบสองเข็มเกิน 60% วัคซีนต้องมีคุณภาพถึง ระบบสาธารณสุขต้องพร้อม มีเตียง มีหมอ มียารักษาสำหรับเฟสต่อไปถึงจะเปิดประเทศได้ แต่วันนี้รัฐบาลบริหารแบบทำงานเช้าชามเย็นชาม ไม่เร่งสปีดเท่าที่ควร

ตนมีคำถามว่าเลือก 10 ประเทศก่อน เช่น สหรัฐ จีน ออสเตรเลีย เยอรมัน สิงคโปร์ เป็นต้น ตนพยายามดูว่าเขาใช้หลักอะไรคิด เท่าที่ดู

1.จำนวนนักท่องเที่ยว

 2.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

3.ให้คนเข้ามาเยอะ ๆ โดยไม่สนใจอย่างอื่น เมื่อดูทั้งสามหลักกลับไม่มีเลย ผสมผสานกันไปหมด

สหรัฐฯ คนติดเชื้อเยอะแต่เรารับได้ ส่วนจีนติดน้อย หรือสิงคโปร์ก็ยังปิดประเทศ แล้วจะมาเที่ยวหรือ อย่างอังกฤษพอเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่เพิ่งปลดล็อกเรา ส่วนยูเออีซึ่งคนติดเชื้อวันละร้อยกว่า ตายแค่คนสองคน และเป็นพวกที่มาเที่ยวเมืองไทยแล้วใช้เงินเยอะ กลับไม่ยอมให้เขาเข้ามา สงสัยกลัวคนมาเยี่ยมตนกันเยอะ เลยไม่รู้ว่าใช้หลักอะไร ตกลงคุณใช้หลักไหนกันแน่

หากเราต้องการนักท่องเที่ยว หากฉีดวัคซีนสองเข็มและ RT- PCR เป็นลบ โอกาสที่เขาจะแพร่เชื้อโอกาสแทบจะเป็นศูนย์หรือ 1% แต่ของเราติดเชื้อกันเองยังเยอะแล้วอาจจะไปปล่อยเชื้อให้เขา ดังนั้นจึงอยากให้นายกฯทบทวน สรุปแล้วถ้ายังไม่พร้อม จะใช้หลักการอะไรเปิดประเทศ เพราะดูแล้วไม่มีหลักคิด ทั้งหมอและกระทรวงต่างประเทศต้องช่วยกันคิด หรือไม่ก็ไม่ต้องเลือก ใช้หลักสากล

เช่น ที่ยุโรปเหลือประเทศที่ห้ามน้อยมาก ใช้แค่หลักวัคซีนสองเข็มและ RT- PCR เป็นลบเท่านั้น ก็สะดวกสบาย วันนี้นักท่องเที่ยวจะแพลนแล้วว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แต่เรายังไม่แพลนให้ชัดเจน จะเสียโอกาส