ร้องปอท.สอบทักษิณ-พวก ปมพูดเท็จไฟเซอร์เข้าไทย

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ตรวจสอบการพูดคุยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับคณะ ใน Clubhouse เรื่องวัคซีนไฟเซอร์

  เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ประเทศไทยมีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์เพื่อใช้กับบุคคลชั้นสูง ซึ่งในความเป็นจริงทั้ง อย.และ บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย ก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์มาในประเทศไทย อีกทั้งไม่ได้ใช้กับบุคคลชั้นสูงในไทยด้วย

จึงขอให้ ปอท.ตรวจสอบและเรียกร้องไปยังนายทักษิณและคณะว่า ในสถานการณ์ที่บ้านเมือง ประชาชนทั้งประเทศตื่นตระหนกกับสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ออกมาพูดความจริง และเป็นกำลังใจให้กันและกันดีกว่า จะทำอะไรต้องระมัดระวังที่จะไม่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในประเทศ พร้อมขอให้นายทักษิณ บริจาคสิ่งที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ส่วนตัวทราบดีว่าการมาร้องต่อ ปอท. คงทำอะไรนายทักษิณไม่ได้ ทราบว่าเป็นนักโทษอยู่ต่างประเทศ แต่ต้องการให้ ปอท.ตรวจสอบคนที่ร่วมจัด Clubhouse ในวันนั้น เพราะเท่ากับเป็นการร่วมกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1)(2)(3)(5) คือร่วมกันเอาความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ปอท. เพราะหากตนไปแจ้งความแล้วมีการลงบันทึกประจำวันก็จะมีความเสี่ยงสูงมากขึ้น

นายสนธิญา ระบุว่า คืนที่มีการจัด Clubhouse ดังกล่าว ตนก็ร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นด้วย คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่า ข้อความที่พูดดังกล่าวเป็นเท็จทั้งหมด จึงถือว่าเป็นการนำความเท็จเข้าสู่ระบบอย่างชัดเจน และคนที่มีความผิดไม่ว่านายทักษิณ หรือคณะที่ร่วมจัดรายการ ก็ร่วมกันกระทำความผิดและทำให้เกิดความวุ่นวายกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ส่วนหนึ่งก็มีเจตนาดีที่อยากจะมีส่วนร่วมแต่สิ่งที่นำเสนอน่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่านี้ และควรพูดความจริง และที่มาร้องในวันนี้เพราะรับไม่ได้ ผิดต่อกระบวนการกฎหมาย อย่างไรก็ตามมองว่าการออกมาพูดของนายทักษิณ ไม่ได้เป็นการตอกย้ำความขัดแย้งแต่จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกมากกว่า