โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญม.170 วรรคสาม และม.82 ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 จึงมีคำสั่งให้รับคำรองไว้วินิจฉัย พร้อมให้ส่งสำเนาคำร้องไปให้พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้ถูกร้อง เพื่อให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจ้งแก้ข้อกล่าวหาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง พร้อมวินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องยังไม่ปรากฏเหตุที่สงสัยได้ว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องที่จะทำให้เกิดความเสียหายประกอบกับผู้ร้องไม่ได้ร้องขอให้ผู้ถูกร้องต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ด้วย สำหรับคดีนี้เกิดจากการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) 110 คน เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าพล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุจากการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวนและให้คู่กรณีมาฟังคำวินิจฉัยในวันดังกล่าว และหากคู่กรณีประสงค์ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง