'หลวงปู่พุทธะอิสระ'นำมวลชนกดดัน'ตำรวจ'ให้ถอนกำลังออกจากศูนย์ราชการ ก่อนม็อบ'ล็อกเก็ตวัตถุมงคล'ให้บูชา ด้าน'การ์ดกปปส.'เปิดการจราจร ถ.แจ้งวัฒนะ
16 ม.ค. 57 เมื่อเวลา 09.00 น.หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย แกนนำกปปส.เวทีแจ้งวัฒนะได้นำมวลชนเข้าตรวจสอบบริเวณรอบนอกของศูนย์ราชการ อาคารเอ ฝั่งที่ตั้งของศาลต่างๆ เนื่องจากได้รับแจ้งจากมวลชนว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังอยู่ภายใน โดยหลวงปู่ฯ ได้เจรจาให้ตำรวจถอนกำลังออกนอกพื้นที่ เพราะมวลชนไม่ไว้วางใจ หากตำรวจไม่ยอมถอนกำลัง ผู้ชุมนุมจะไม่บุกเข้าไปภายในแต่จะปิดล้อมอยู่ภายนอก ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถจัดส่งกำลังบำรุง อาหาร และน้ำดื่ม เข้าไปภายในได้ จึงแนะนำให้ตำรวจถอนกำลังออกนอกพื้นที่
จากนั้น ตำรวจได้ยอมถอนกำลังทั้งหมดออกจากศูนย์ราชการทั้งอาคารเอและอาคารบี โดยหลวงปู่ฯ ได้มอบล็อกเก็ตวัตถุมงคลให้ตำรวจเก็บไว้บูชา อย่างไรก็ตาม หลวงปู่พุทธะอิสระได้นำมวลชนไปแสดงความขอบคุณทหารก่อนนำมวลชนกลับมาที่ตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้พื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะกลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดเส้นทางการจราจรเพิ่มเติม
โดยให้รถยนต์สามารถขับขึ้นสะพานข้ามแยกหลักสี่ผ่านเข้ามาได้จนถึงหน้าบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จากนั้น ให้เบี่ยงรถไปวิ่งสวนในเส้นทางขาเข้าเมืองได้ เช่นเดียวกับรถยนต์จากห้าแยกปากเกร็ดก็สามารถแล่นผ่านพื้นที่ชุมนุมบนถนนแจ้งวัฒนะไปยังแยกหลักสี่ได้เช่นกัน โดยพื้นที่ชุมนุมได้กระชับมาปิดพื้นที่เฉพาะตั้งแต่หน้าบริษัท ทีโอที จนถึงด้านหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เท่านั้น
คณะสงฆ์นครปฐมแจ้งเตือน"พุทธะอิสระ"ชุมนุมการเมืองแล้ว นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) นครปฐม กล่าวว่า กรณีหลวงปู่พุทธะอิสระไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มกปปส.นั้น ขณะนี้ คณะสงฆ์นครปฐมทั้งระดับเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ได้ประชุมหารือถึงเรื่องดังกล่าว โดยได้ดำเนินการตักเตือนด้วยวาจาต่อหลวงปู่พุทธะอิสระแล้ว ซึ่งพศจ.นครปฐม ได้ทำรายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบและลงนามถึงแนวทางการทำงานคณะสงฆ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538
ระบุไว้ว่า ห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าไปในที่ชุมนุมไม่ว่ากรณีใดๆ พร้อมทั้งห้ามพระภิกษุสามเณรสนับสนุนช่วยเหลือโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่การหาเสียงเพื่อเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เทศบาล หรือการเมืองใดๆ แก่บุคคล หรือคณะบุคคลใดๆ รวมถึงห้ามชุมนุนเรียกร้องสิทธิของบุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ อีกทั้ง ห้ามร่วมอภิปรายหรือบรรยายเกี่ยวกับการเมืองทั้งในวัดและนอกวัด หากพระภิกษุสามเณรใดละเมิด ฝ่าฝืน ให้พระสังฆาธิการปกครองดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน ทั้งนี้ หากกระทำผิดซ้ำให้พระสังฆาธิการปกครอง ดำเนินการลงโทษตามความเหมาะสม เช่น การกล่าวเตือนซ้ำ เป็นต้น