เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของเยาวชนครอบครัวยากจน
คือ นายอิทธิฤทธิ์ ดรุณเรืองศรี อายุ 15 ปี หรือ น้องอ้น อยู่บ้านเลขที่ 67 บ้านโนนสำราญ หมู่ 12 ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับ ตาและยาย เพียงลำพัง คือ นายสุดี ช่างคำ อายุ 65 ปี และ นางมิตร ช่างคำ อายุ 65 ปี ที่มีอาการป่วยเป็นอัมพาต มานาน นับ 10 ปี ต้องนอน และขับถ่ายกับที่ อยู่ภายในบ้านไม้ยกสูงสภาพเก่าทรุดโทรม จนกระทั่งผอมแห้งเหลือเพียงเนื้อหุ้มกระดูก ทำให้ นายอิทธิฤทธิ์ ดรุณเรืองศรี อายุ 15 ปี หลานชายที่ตากับยาย เลี้ยงมาตั้งแต่อายุ ได้ 3 ขวบ หลังพ่อแม่ ฝากเลี้ยงไว้ หลังเดินทางไปทำงานต่างถิ่น และไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย ปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง ในสภาพอดมื้อกินมื้อเพราะไม่มีรายได้
จนกระทั่งล่าสุด ต้องหยุดเรียนกลางคัน เพราะฐานะยากจนไม่มีเงิน บวกกับต้องมีภาระหน้าที่ มาดูแลยายที่ป่วยอัมพาตตลอดเวลา
เดินไปไหนไม่ได้ ต้องป้อนข้าว ป้อนน้ำ ส่วนค่าใช้จ่ายแต่ละวันต้องอาศัยจากเงินรายได้ที่ไปรับจ้างหาเงินซื้อข้าวกิน วันละไม่ถึง 100 บาท โดยส่วนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลบัวสว่าง ที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบ ได้เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการ รวม 2 คน เดือนละ ประมาณ 1,500 บาท แต่ไม่เพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงชีวิต
นายสุดี ช่างคำ อายุ 65 ปี กล่าวถึงความรันทดของชีวิตครอบครัวว่า ตนได้แต่งงานอาศัยอยู่กับ นางมิตร ช่างคำ อายุ 65 ปี ภรรยา มานานกว่า 30 ปี
จนกระทั่งมีลูกด้วยกัน 6 คน ชาย 4 คน หญิง 2 คน แต่ด้วยความยากจน ทำไร่ทำนา ไม่มีอาชีพอื่น ทำให้ลูกต่างพากันแยกย้ายไปหาทำงานต่างถิ่น มีครอบครัวใหม่ จนกระทั่งลูกสาวคนโต ได้แต่งงานมีลูกชาย 1 คน คือนายอิทธิฤทธิ์ ดรุณเรืองศรี อายุ 15 ปี แต่ปล่อยไว้ให้ตากับยายดูแล ตั้งแต่อายุ ได้ 3 ขวบ เพราะต้องไปทำงานต่างจังหวัด จนกระทั่ง เวลาล่วงเลยนับ 10 ปี ลูกทั้ง 6 คน ไม่ได้ติดต่อกลับ มีมาบ้าง แต่ก็นานมาก เพราะต้องดิ้นรน ตนจึงต้องทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว รวมถึงหลานชายเพียงลำพัง จนกระทั่ง ภรรยาต้องมาป่วยอัมพาต จากโรคพันธุกรรม ยากที่จะรักษาให้หายขาด อาศัยเพียงกินยาแก้ปวดบรรเทา โดยมี นายอิทธิฤทธิ์ อายุ 15 ปี หรือน้องอ้น หลานชายคอยช่วยเหลือ ดูแล อยู่กับยาย หาข้าวให้กิน และคอยดูแลทุกอย่าง เป็นกิจวัตรประจำวัน และล่าสุด หลานชายได้หยุดเรียนกลางคัน เพียงแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องมาดูแลยายที่ป่วย
ทั้งนี้ ตนจึงวิงวอนผู้ใจบุญมาช่วยหลานชาย เพราะห่วงมาก อยากให้หลานชายได้รับการศึกษา มีอนาคต เพราะโดยนิสัยเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร และดูแลยายได้ทุกอย่าง ต้องแต่อาบน้ำ ป้อนข้าว อุ้มไปมาในบ้าน เนื่องจากในอนาคตเมื่อตากับยายไม่มีแล้ว อยากให้มีอาชีพ