งานแรก รมว.วัฒนธรรม ปธ.ถก 3 ฝ่ายสางปมศิลปะไทย วธ.แจงเขมรขึ้นทะเบียนรำ-หนังใหญ่ไม่กระทบสิทธิ์ไทย ย้ำมีหลักฐานสำคัญแสดงความเป็นเจ้าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม "บัวแก้ว" เล็งหาข้อสรุปชง ครม.-สภา ล้อมคอก ขณะที่ "ซูเปอร์เป็ด" ปิ๊งไอเดียดัน "จุฬา-ปักเป้า" ตีตรายูเนสโก
ความพยายามในการปกป้องศิลปวัฒนธรรมประจำชาติของไทยไม่ให้ซ้ำรอยรำไทย ท่าจีบ และหนังใหญ่
ที่กัมพูชานำไปขึ้นทะเบียนกับองค์การการศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม นายปริญญา สุขชิต หรือซูเปอร์เป็ด อุปนายกสมาคมกีฬาไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานสภาวัฒนธรรมเขตดุสิต กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนท่ารำและหนังใหญ่ของกัมพูชา ถือเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวโทษใคร เนื่องจากศิลปะแขนงนี้มีความเกี่ยวโยงกันของคนทั้งภูมิภาค เราไม่น่าจะใส่ใจมากนัก แต่ควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราเป็นต้นแบบอย่าง "ว่าว" ทั้งว่าวจุฬา และว่าวปักเป้า คนไทยทำและเล่นมาตั้งแต่สมัยพระร่วง มาถึงยุครัตนโกสินทร์ เราใช้สนามหลวงเป็นเวทีแข่งขันต่อเนื่องมายาวนาน
"ผมเตรียมแบบเอกสารภาษาอังกฤษเสนอยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรกดทางวัฒนธรรม โดยไม่ต้องพึ่งหน่วยงานรัฐ ขืนปล่อยไว้เดี๋ยวคนอื่นเขาเอาไปขึ้นทะเบียนก่อน อีกด้านหนึ่งผมได้ส่งเสริมให้เด็กเยาวชนเรียนรู้การทำว่าวประเภทต่างๆ โดยสอนให้เด็กในโรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ ประมาณ 3 แสนคน ทำว่าวจุฬาและปักเป้าจำนวน 1 หมื่นตัว เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เรามีหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่จะแสดงต่อยูเนสโกทั้งบันทึกทางประวัติศาสตร์ ภาพถ่ายในอดีต อีกทั้งการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ผมจึงมั่นใจว่าการผลักดันครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่" นายปริญญากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่กระทรวงวัฒนธรรม นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาทางวัฒนธรรมกรณีเร่งด่วนในเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ปัญหาเขาพระวิหาร และปัญหาน้ำท่วมโบราณสถาน เพื่อเร่งหาทางออกและข้อสรุปในการดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลไทยต่อเรื่องที่กัมพูชาจะขึ้นทะเบียนรำไทยและหนังใหญ่ต่อยูเนสโกว่า "ขอไปสอบถามรายละเอียดก่อนนะคะ"
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศ จะเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมกับกระทรวงวัฒนธรรม ยูเนสโกประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ป้องกันปัญหาซ้ำซ้อนท่ารำไทย และหนังใหญ่ ในวันที่ 15 สิงหาคม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนำเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
"ขอยืนยันว่าการที่กัมพูชานำวรรณคดีไทย พยัญชนะ คำราชาศัพท์ และรำไทยขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก ไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิ์ในการขึ้นทะเบียนในอนาคต เพราะการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ระบุชัดว่า รอยัลบัลเลต์ เป็นการรำของกัมพูชา ซึ่งต่างกันออกไป ทั้งนี้ ศิลปวัฒนธรรมไทยและกัมพูชามีความคล้ายคลึง และต่างก็ได้รับวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ดังนั้น หากมีการขึ้นทะเบียนจะต้องพิจารณาว่าศิลปะนั้นเป็นของไทยจริงๆ อย่างไรก็ตาม การขึ้นทะเบียนเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพื่อให้โลกรับรู้ว่ามีศิลปวัฒนธรรมแบบนี้ปรากฏอยู่" นายธานีกล่าว
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม กลุ่มปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สำนักวิจัยและพัฒนา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ชี้แจงว่า
ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้รับการประสานงานเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของกัมพูชานั้น กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้สืบค้นข้อมูลและขอรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องผลกระทบของการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ของกัมพูชาต่อมรดกทางวัฒนธรรม ด้านศิลปะการแสดงของประเทศไทย ดังนี้
ข้อแรก การขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ของกัมพูชา คือ ยูเนสโกได้ดำเนินโครงการงานชิ้นเอกในฐานะมรดกทางมุขปาฐะและที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี 2544 และปี 2546 โดยประกาศมรดกวัฒนธรรมของประเทศกัมพูชาให้เป็นงานชิ้นเอกในฐานะมรดกทางมุขปาฐะและที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ 2 รายการ ได้แก่ "The Royal Ballet of Cambodia" ลักษณะคล้ายกับโขนและละครรำของไทย และ "Sbek Thom, Khmer Shadow Theater" ลักษณะคล้ายกับหนังใหญ่ของไทย
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว