นายกฯ ประกาศเมินภาษีทรัมป์ กัมพูชาคงขอโอกาสเจรจาอีกไม่ได้!

‘นายกฯ อนุทิน' ประกาศกลางวง วปอ. ลั่น ‘กัมพูชา' ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง คงขอโอกาสกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกไม่ได้! เมิน ‘ภาษีทรัมป์' หลังระงับ ‘ปฏิญญาสู่สันติภาพ' ลั่น ไม่สนแล้ว ถ้าขายประเทศนี้ไม่ได้ ก็ไปหาประเทศอื่น เราเอาชีวิตไปฝากไว้กับประเทศเดียวได้อย่างไร ปิดไปก็ไปหาที่อื่นได้

วันที่ 12 พ.ย.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 โดยมี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , พลเอกธราพงษ์ มะละคำ ปลัดกระทรวงกลาโหม , พลเอกอุกฤษณ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผบ.ทสส. ร่วมด้วย

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.68) ที่ประชุม สมช.มีการประเมินสถานการณ์ (หลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด) วันนี้เราลงนามในปฏิญญา แต่ผู้ที่ลงนามปฏิญญากับเราไม่ปฏิบัติ ในเมื่อไม่ปฏิบัติ ตนก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไร ตนก็ต้องร้องเพลง My Way เพราะ 4 ข้อหลัก 4 ข้อ คุณไม่ทำ แต่เราทำ เราทำทุกข้อ เราต้องการให้เกิดสันติภาพโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อคุณไม่ทำ แล้วจะกลับมาทำใหม่ไม่ได้

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยต้องยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนคนไทยเท่านั้น ตรงนี้มีความชัดเจนแล้ว ตนจึงบอกว่า เดี๋ยวเจรจาการค้าภาษี (กับสหรัฐฯ) เป็นอย่างไร ไม่สนแล้ว หากขายประเทศนี้ไม่ได้ ก็ไปหาประเทศอื่น ภาคเอกชนต้องช่วยกัน เราจะเอาชีวิตไปฝากไว้กับประเทศๆ เดียวได้อย่างไร ภาคเอกชนเข้าใจเรื่องนี้ดี ส่วนนี้ปิดไปไม่เป็นไร ไปหาที่อื่นได้ ใช้ภาษีมากกดดันเราก็ไม่เป็นไร เพราะประเทศอื่นก็โดนผลกระทบเรื่องภาษีเหมือนกัน เราต้องมานั่งคุยกันเอง

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว หากภาษีสูงมากจนถึง 100% ท้ายที่สุดผู้เดือดร้อนก็คือผู้ซื้อ เราเป็นผู้ผลิต เราก็ต้องหันมาซื้อของในบ้านเราให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราต้องอยู่ให้ได้ในยุคที่สร้างศักยภาพให้กับตนเอง