ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 28 มี.ค.54
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ว่าได้เกิดฝนตกกระหน่ำอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 ชม.พร้อมทั้งมีลมกรรโชกอย่างหนักในหลายจุดส่งผลให้มีต้นไม้โค่นล้มขวางเส้นทางการจราจรหลายสายเช่นถนนสายนครศรีธรรมราช-ปากพนัง ถนนสายท่าซัก และอีกหลายจุด ขณะเดียวกันจากปริมาณน้ำฝนทำให้น้ำป่าไหลหลากเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ปริมาณน้ำในลำคลองเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องออกแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตราย และยังมีรายงานคลื่นสูงเข้ากัดเซาะและลมกรรโชกถล่มพื้นที่แหลมตะลุมพุกอย่างต่อเนื่อง
นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง
เปิดเผยว่าชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดวิตกเนื่องจากมีลมกรรโชกแรงมาก กระแสคลื่นยกตัวสูงขึ้น มาติดกับถนนในหมู่บ้านแล้ว ต้นไม้โค่นล้มช่วงคืนนี้ในเวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตี 1 น้ำทะเลจะหนุนสูงคลื่นลมซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงน้ำทะเลจะพัดเข้าท่วมบ้านเรือชาวบ้านในพื้นที่อีกครั้ง
“ชาวแหลมตะลุมพุกลำบากไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะอพยพไปที่ไหน ถนนจะหมดแล้วเมื่อถนนคอนกรีตเส้นนี้หมดหมายถึงบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ติดกันจะถูกกัดเซาะไปจนหมดเช่นเดียวกัน ” กำนันตำบลแหลมตะลุมพุกกล่าว
สงขลาฝนตกอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมหลายชุมชน
เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จ.สงขลา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในหลายชุมชนภายในเขตเทศบาลนครสงขลา โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดริมทะเลสาบสงขลา ตั้งแต่ท่าแพขนานยนต์ไปจนถึงชุมชนเตาอิฐ เนื่องจากเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนรวมทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำระบายไม่ทัน เนื่องจากเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้สูบน้ำลงทะเลที่โรงสูบน้ำบริเวณสวน 72 พรรษา เครื่องชำรุดใช้การไม่ได้คงมีแต่เครื่องสูบน้ำเครื่องเล็กเพียงเครื่องเดียว ทางเทศบาลนครสงขลาไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งๆที่มีประกาศเตือนจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกมาหลายวันแล้ว