ภาพลับโผล่มัด-พระฉาวมั่วสีกาในกุฏิ

ชาวบ้านสุดทนพระฉาว ลูกวัดย่านพระประแดงยุ่งเกี่ยวกับสีกา ลูกศิษย์ทนพฤติกรรมไม่ไหวแอบถ่ายรูปขณะกำลังนัวเนียสีกาในกุฏิทั้งจีวรออกแจกจ่ายชาวบ้าน อาศัยกุฏิอยู่ติดป่าช้าทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไป พระในวัดยอมรับได้ยินข่าวมานาน แต่ไม่มีใครอยากจะเข้าไปยุ่ง ล่าสุดพระฉาวรู้ว่าเรื่องของตัวเองแดง รีบขอสึกกับเจ้าอาวาส เผ่นออกจากวัดแล้ว


เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านย่านวัดมหาวงษ์ ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่า มีพระรูปหนึ่งที่วัด ชื่อพระอมร อายุ 55 ปี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมคือยุ่งเกี่ยวกับสีกาซึ่งมีภาพเป็นหลักฐาน เป็นรูปพระกำลังนัวเนียอยู่กับสีกา ซึ่งลูกศิษย์วัดแอบถ่ายเพราะทนพฤติกรรมของพระอมรไม่ไหว และนำออกแจกจ่ายชาวบ้านที่อยู่รอบวัด นอกจากนี้ยังสงสัยว่าพระอมรจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย จึงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

เพราะที่วัดแห่งนี้เมื่อมืดค่ำแล้วพระแต่ละรูปต่างคนต่างก็เข้ากุฏิ ส่วนพระอมรนั้นมีกุฏิติดกับป่าช้า อยู่ด้านหลังเป็นหลังสุดท้าย ทำให้ไม่ค่อยมีใครจะเดินเข้าไปเพราะกลัว แต่ก็เคยเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์วิ่งเข้าออกเป็นประจำ สำหรับพระอมรบวชมานานประมาณ 20 พรรษา

ด้านลูกศิษย์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงหลังที่กุฏิพระอมรเห็นรถจักรยานยนต์รับจ้างวิ่งเข้าออกบ่อย เท่าที่เห็นจะวิ่ง 2 รอบ คือประมาณ 10.00 น. ช่วงหนึ่ง และอีกช่วงจะเป็นตอนค่ำ โดยจักรยานยนต์จะนำผู้หญิงมาส่งให้ทุกคืน คนขับจักรยานยนต์ชื่อนายแก้ว รูปร่างสูงใหญ่ เป็นเอเย่นต์รายย่อยขายยาบ้าจากบางนา แวะเวียนมาหาพระอมรเป็นประจำ เรื่องทั้งหมดมีลูกศิษย์เก่าของพระอมรเห็นและรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ตอนแรกบอกว่าจะให้การเป็นพยาน แต่ตอนหลังกลับไม่ยอมพูดอะไร เนื่องจากพระอมร จะให้เงินกับลูกศิษย์เป็นประจำ

เรื่องยาเสพติดนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามอยู่เป็นประจำ ก่อนหน้านี้เคยมีพระที่ติดยาแต่ได้สึกออกไปแล้ว แต่ถ้าพระลูกวัดรูปไหนกระทำความผิดตนก็จะไม่ปกป้อง และให้ดำเนินการตามกฎหมายได้เลย แต่ต้องบอกให้เจ้าอาวาสทราบก่อนเพราะเป็นพระไม่ใช่ฆราวาส ต้องทำให้ถูกต้อง

เมื่อถามถึงเรื่องมีสีกามาหาพระอมร พระครูปลัดเพลิน กล่าวว่า เคยได้ยินข่าวมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นกับตา ถ้าเข้าไปแล้วเห็นกับตาว่ากระทำผิดจริงๆ ก็จะให้ดำเนินการได้ทันที แต่ถ้าทำอะไรไปแล้วพลาดจะแก้ตัวลำบาก อาจจะหาว่าพระผู้ใหญ่กลั่นแกล้งก็ได้ เคยมีคนมาบอกว่ามีผู้หญิงมาหาพระอมร แต่มาบอกอีกวันหนึ่งซึ่งได้ผ่านมาแล้ว ทำให้ไม่มีพยานหลักฐานอะไร ถ้ามีหลักฐานก็ให้แจ้งเจ้าอาวาสก่อนแล้วดำเนินการได้เลย แต่ตอนนี้ใกล้เข้าพรรษาแล้ว เกรงว่าจะไม่มีคนเข้ามาทำบุญเท่านั้น

ขณะนี้สึกออกจากวัดไปแล้ว จึงไปสอบถามพระครูปลัดเพลินเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ กล่าวว่า หลังมีข่าวพระครูวิบูลสมุทรวัฒน์ เจ้าอาวาสได้เรียกพระอมรมาสอบถามข้อเท็จจริง

เมื่อพระอมรทราบว่าเรื่องของตัวเองเป็นข่าวใหญ่โต จึงขอให้พระครูวิบูลสมุทรวัฒน์สึกให้ทันทีและก็ออกจากวัดไปแล้ว ส่วนกุฏิที่พระอมรเคยจำวัดอยู่ในขณะนี้ล็อกกุญแจเอาไว้ หากตำรวจต้องการขอตรวจค้นหายาเสพติดตามที่ชาวบ้านสงสัย วัดก็ยินดีให้ความร่วมมือ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย




แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด