ชูวิทย์ เปิดผังขบวนการตั้งด่าน อ้างรับเดือนละ 324 ล้าน

จากกรณีข่าวตำรวจรีดไถเงิน "อันหยู๋ชิง" ดาราสาวไต้หวัน ช่วงที่เธอเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงต้นเดือน ม.ค. 66 ด้วยข้ออ้างว่า เธอพกบุหรี่ไฟฟ้าแต่กลับกลายเป็นการเรียกรับเงินจำนวน 27,000 บาท

ล่าสุดวันที่ 1 ก.พ. 66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตนักธุรกิจกลางคืน เปิดเผยก่อนเชิญ นายสกาย เพื่อนของดาราไต้หวันที่จ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้ตำรวจร่วมแถลงข่าว

นายชูวิทย์กล่าวว่า การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่มีการทำเป็นขบวนการ จัดสรรแบ่งส่วนให้กับผู้ที่ปฏิบัติงาน และการตั้งด่านนี้ทำลายภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว เฉพาะในช่วงนี้ที่มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งแทนที่นักท่องเที่ยวจะกลัวโจรผู้ร้าย กลับต้องมากลัวตำรวจที่ควรจะดูแลความปลอดภัยของพวกเขา

ทั้งนี้นายชูวิทย์เปิดภาพที่ตำรวจนำบุหรี่ไฟฟ้าใส่มือของอันหยู๋ชิง พร้อมกล่าวว่าเป็นความจริงที่อันหยู๋ชิงใช้บุหรี่ไฟฟ้า แต่วันที่เกิดเรื่องเธอไม่ได้นำบุหรี่ไฟฟ้ามา มีเพียงเพื่อนชายชาวสิงคโปร์ที่พกมา ทั้งยังให้พวกเขาถอดรองเท้าทั้งทีไม่มีสิทธิที่จะทำกันถึงขนาดนั้น ทำไปด้วยสาเหตุอะไร ใช้อำนาจใดไปค้นพวกเขา

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ถ้าถึงวันนี้ตำรวจต้องการจะคืนเงิน 27,000 บาท ให้กลุ่มผู้เสียหายตนก็เชื่อว่าเขาจะไม่รับแล้ว และไม่ได้อยากได้ค่าทำขวัญอะไร เพราะชาวต่างชาติไม่รู้จักค่าทำขวัญของไทย อีกทั้งเพราะเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม และที่ผ่านมายังถูกเจ้าหน้าที่ใส่ร้ายมาตลอด เปรียบตำรวจไม่ดีเป็นนิ้วร้ายที่ต้องตัดทิ้งเชื่อว่าวันนี้ไม่มีนิ้วเหลือให้ตัดแล้วคงต้องตัดแขนแทน

ดังนั้นยืนยันว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่มีติดสินบนเจ้าพนักงานแน่นอน พวกเขาเป็นนักท่องเที่ยวเป็นผู้เสียหายและบุหรี่ไฟฟ้า เขาก็ซื้อในประเทศไทย สำหรับตนการออกมาในครั้งไม่ได้อยากดังหรือได้หน้าเพราะตนดังมานานแล้ว แต่ตนจำเป็นต้องพูดเพราะไม่มีใครพูดความจริง ดังนั้นมองว่าการที่ ผบช.น.ทำอยู่เป็นการปกป้องตัวเองไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ได้เปิดผังโดยระบุว่า คือขบวนการตั้งด่านรีดไถ่ประชาชนตามพื้นที่ของนครบาลมีทั้งหมด 88 สน. ตำรวจจะต้องทำยอดส่ง บชน. รายเดือน ๆ ละหรือ 30 วัน ๆ ละ 100,000 บาท รวม 30 วัน ก็ 3 ล้านบาท แต่ทั้งหมด 88 สน. คูณ 3 ล้านบาท รวมส่ง บชน. เดือนละ 264 ล้านบาท ขณะที่จราจรกลางต้องส่ง บชน.รายเดือน 100,000 บาท เช่นกัน แต่มีการตั้งด่านทั่วกรุงเทพฯ ไม่จำกัดหรือตลาดทั้งวัน ซึ่งคูณวันละ 20 ด่าน เป็นเงิน 2 ล้านบาทต่อวัน รวม 30 วันเป็นเงินที่ต้องร่วมส่ง บชน. 60 ล้านบาท

ดังนั้น 2 หน่วยงานร่วมส่ง บชน. เดือนละ 324 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีอัตรารีดไถ เมา แอลกอฮอล์ 30,000 บาท, ตรวจฉี่ม่วง 100,000 บาท, ตรวจพบยาเสพติด 3-5 แสนบาท, ตรวจพบอาวุธ 3-5 หมื่นบาท, ควันดำ 10,000 บาท และของผิดกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า 30,000 บาท

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตำรวจไทยผิดเต็ม ๆ เพราะต่างประเทศที่ตนไปหากพบตำรวจจะตรวจประชาชนได้ต้องมีเหตุอันสงสัย แต่หากพบสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศของเขา แต่เขาจะมองว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวก็จะทำบันทึกและว่ากล่าวตักเตือน ไทยต้องตื่นตัวเรื่องคอรัปชั่น เพราะเรื่องนี้จริง ๆ ระดับนายกรัฐมนตรีต้องลงมาดูแลเองแต่ก็กลับมีการปล่อยปะละเลยดังนั้นการตั้งด่านรีดเงินประชาชนควรยกเลิกได้แล้ว นายชูวิทย์ กล่าว