ส.ส.เต้ ชี้แจงปมคลิปเสียงขู่ สมาชิกพรรคเล็งแจ้งความทนายเดชาเรื่องนี้!?
โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงประเด็น ที่มีคลิปเสียง พูดคุยกับทนายเดชา ทางโทรศัพท์ นั้น ตนมองว่าเป็นบทสนาที่มีการนำเผยแพร่ เป็นการพูดตามปกติ ในฐานะคนสนิท และที่ผ่านมาก็คุยแบบนี้กับทุกคน ไม่คิดว่าทนายเดชาจะนำมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน โดยอธิบายว่า การโทรไปพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้ข่มขู่ แต่แค่เตือนไม่อยากให้ยุ่งกับคดีของแตงโม รวมถึง ยุ่งกับแม่ของแตงโม เพราะตอนนี้ถือว่า ทนายเดชาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว และตอนนี้ตัวเองก็เป็นคนเข้ามาดูแล จึงไม่อยากมีความขัดแย้งกับทนายเดชา
ยืนยันว่าไม่ได้ใช้คำพูดว่า จะกระทืบ หรือ ส่งคนไปทำร้าย แต่คำพูดอาจดูรุนแรง เพราะจริงๆแล้วแค่ พูดเล่น หยอกล้อ แบบพี่น้องเท่านั้น และคำพูดที่บอกว่า กำจัด ก็ไม่ใช่การข่มขู่ อาฆาต แต่เปรียบเหมือนเป็นวัชพืชที่ต้องกำจัด ยกตัวอย่างคดีนี้ทนายเดชาออกมาแสดงความเห็นทำให้คดีไขว้เขว คนเข้าใจผิด ก็ต้องกำจัด แต่ยืนยันไม่ใช่การฆ่า แต่กำจัดในที่นี้เป็นวิธีทางการเมือง หรือดำเนินคดี
ส่วนประโยคที่บอกว่า หากทนายเดชายังไม่หยุด จะใช้วิธีทางการเมืองจัดการ นายมงคลกิตติ์ยกตัวอย่างว่า ถ้าลูกพรรคไม่พอใจอาจมีการรวมตัวกันไปประท้วง หรือ ทนายเดชาอาจได้รับผลกระทบจากความไม่พอใจ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ที่ที่มีสมาชิกพรรคอยู่ที่นั้น เป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเมืองปัจจุบันมีความรุนแรง ทำให้เป็นห่วงในฐานะพี่ชาย ซึ่งนายมงคลกิตติ์ยังเปรียบเทียบกับ กรณีของทนายตั้ม ที่เคยถูกกลุ่มคน จ.ภูเก็ต รวม ตัวกันประท้วงเรื่องการตรวจสถานบันเทิง และตอนนี้ก็ทราบมาว่า สมาชิกพรรคเตรียมจะไปแจ้งความเอาผิดทนายเดชา ที่จังหวัดภูเก็ต และนราธิวาสด้วย
นายมงคลกิตติ์ ยังบอกอีกว่า ตัวเองไม่ใช่คนกร่าง และไม่ได้ใช้อำนาจความเป็นนักการเมืองมาข่มขู่เพราะ ถึงแม้ไม่ใช่นักการเมือง ตัวเองก็มีอำนาจอยู่แล้ว และเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ขัดกับจริยธรรม รวมถึงมองว่าถ้าคดีการการเสียชีวิตของแตงโมได้รับความยุติธรรม ก็จะเป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งใหญ่ หลังจากนี้เตรียมแจ้งความทนายเดชา เพราะการนำคลิปสนทนามาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิด ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
และยังฝากบอกทนายเดชาว่า หลังจากนี้ควรหยุดแสดงความคิดเห็นหรือพูดพาดพิง ถ้ายังไม่หยุดจะส่งไวน์ไปให้อาทิตย์ละขวด จะได้ดื่มให้สบายใจ
แต่สำหรับคดีนี้ได้ขอความร่วมมือ เพื่อให้ช่วยกันคลี่คลายคดีของแตงโม เพราะแม่ ได้แต่งตั้งให้บังแจ๊คเป็นที่ปรึกษา ตรวจสอบวัตถุพยาน และส่วนตัวไม่ได้มองว่า การที่บังแจ๊คเป็นผู้ต้องหา หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ จะเป็นปัญหา เพราะยังไม่มีคำตัดสินจากศาลว่าบังแจ๊คผิด สักคดี เปรียบเทียบกับตัวเอง และนักการเมืองคนอื่นๆ ก็มีคดีติดตัว ถูกฟ้องเหมือนกัน