ชงเข้ม! Work From Home หลังปีใหม่ รับมือโอมิครอน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ชงเข้ม! Work From Home หลังปีใหม่ รับมือโอมิครอน
สธ. ชงเข้ม! Work From Home หลังกลับปีใหม่ รับมือโอมิครอน หลังพบผู้ติดเชื้อ 514 ราย ห่วงสัดส่วนติดเชื้อในเด็กสูง เพราะไม่ได้ฉีดวัคซีน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุม ครฒ ว่ากระทรวงสาธารณสุข นำข้อมูลที่จำลองประเมินสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่อาจจะเกิดขึ้นกำชับต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้โอไมครอนจะไม่มีอาการรุนแรง แต่พยายามจะไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะหากติดเชื้อต้องกักตัวและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในภาพรวม จึงมีความพยายามให้ติดเชื้อน้อยที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจการเดินหน้าเปิดประเทศ
"กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ข้าราชการที่สามารถปฏิบัติงานที่บ้าน Work From Home (WFH) ได้หลังจากเทศกาลปีใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยวันที่ 4 ม.ค. หลังเปิดทำงานวันแรก จะประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจนขึ้น เชื่อว่าช่วงกิจกรรมของปีใหม่คงหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโอไมครอนได้ยาก
เนื่องจากมีการรวมตัวกัน ซึ่งเป็นมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานสามารถทำได้ และรัฐบาลมำเป็นตัวอย่าง ถ้าภาคเอกชนปฏิบัติตามจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนระยะเวลาการ WFH จะยาวนานเท่าใด ขอประเมินหลังเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งหากร่วมมือกันเป็นอย่างดีและตัวเลขหลังปีใหม่ไม่ก้าวกระโดดจะทำให้มาตรการต่าง ๆ เบาลง"
นายสาธิต กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทยอยชัดเจนขึ้นเป็นผลจากพฤติกรรมที่อั้นมานาน ตัวเลขจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นในช่วง 2 วันหลังปีใหม่ ประกอบกับมาตรการต่าง ๆ ของทุกภาคส่วนเริ่มหย่อนยาน แต่แม้จะพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้น แต่เหตุการณ์จะไม่ซ้ำรอยกับช่วงหลังสงกรานต์เมษายน 2563 เนื่องจากอาการของโรคไม่รุนแรง แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ การติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จะมีสัดส่วนการติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลเครือข่ายของ กรุงเทพมหานคร ซึ่งหากมีอาการหนักจะให้โรงพยาบาลเอกชนรับไปดูแล หลังจากนี้จะไปดูความพร้อม รวมถึงต้องดูปัจจัยการติดเชื้อ จึงจะตัดสินใจได้ว่าเด็กยังต้องเรียนออนไลน์ต่อไปหรือไม่
เครดิตแหล่งข้อมูล : brighttv.co.th
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุม ครฒ ว่ากระทรวงสาธารณสุข นำข้อมูลที่จำลองประเมินสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่อาจจะเกิดขึ้นกำชับต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้โอไมครอนจะไม่มีอาการรุนแรง แต่พยายามจะไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะหากติดเชื้อต้องกักตัวและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในภาพรวม จึงมีความพยายามให้ติดเชื้อน้อยที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจการเดินหน้าเปิดประเทศ
"กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ข้าราชการที่สามารถปฏิบัติงานที่บ้าน Work From Home (WFH) ได้หลังจากเทศกาลปีใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยวันที่ 4 ม.ค. หลังเปิดทำงานวันแรก จะประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจนขึ้น เชื่อว่าช่วงกิจกรรมของปีใหม่คงหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโอไมครอนได้ยาก
เนื่องจากมีการรวมตัวกัน ซึ่งเป็นมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานสามารถทำได้ และรัฐบาลมำเป็นตัวอย่าง ถ้าภาคเอกชนปฏิบัติตามจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนระยะเวลาการ WFH จะยาวนานเท่าใด ขอประเมินหลังเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งหากร่วมมือกันเป็นอย่างดีและตัวเลขหลังปีใหม่ไม่ก้าวกระโดดจะทำให้มาตรการต่าง ๆ เบาลง"
นายสาธิต กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทยอยชัดเจนขึ้นเป็นผลจากพฤติกรรมที่อั้นมานาน ตัวเลขจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นในช่วง 2 วันหลังปีใหม่ ประกอบกับมาตรการต่าง ๆ ของทุกภาคส่วนเริ่มหย่อนยาน แต่แม้จะพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้น แต่เหตุการณ์จะไม่ซ้ำรอยกับช่วงหลังสงกรานต์เมษายน 2563 เนื่องจากอาการของโรคไม่รุนแรง แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ การติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จะมีสัดส่วนการติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลเครือข่ายของ กรุงเทพมหานคร ซึ่งหากมีอาการหนักจะให้โรงพยาบาลเอกชนรับไปดูแล หลังจากนี้จะไปดูความพร้อม รวมถึงต้องดูปัจจัยการติดเชื้อ จึงจะตัดสินใจได้ว่าเด็กยังต้องเรียนออนไลน์ต่อไปหรือไม่
เครดิตแหล่งข้อมูล : brighttv.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น