NYTimes ตีแผ่ความเหลื่อมล้ำทำโควิดในไทยระบาดหนักกระทบคนจน
สื่อดังสหรัฐฯ รายงานการระบาดของโควิด-19 ในไทย จากประเทศที่เคยมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มาหลายเดือน สู่วิกฤตครั้งใหม่ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
การระบาดของโควิด-19 ในไทยระลอกล่าสุด กลายเป็นประเด็นที่ นิวยอร์กไทมส์ (New York Times) หนังสือพิมพ์ชื่อดังของสหรัฐฯ นำเสนอแบบเจาะลึก พร้อมย้อนไปถึงสาเหตุของครั้งก่อนๆ โดยชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ทำให้เกิดการระบาดครั้งแล้วครั้งเล่า
เริ่มตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ในปี 2563 เกิดจากคลัสเตอร์สนามมวยของกองทัพบก ซึ่งทำเงินจากการพนันกีฬา ได้กลายมาเป็นคลัสเตอร์ที่ทำให้เชื้อระบาดไปทั่วประเทศ
ต่อมาคือการระบาดในช่วงปลายปี จากคลัสเตอร์ตลาดอาหารทะเล ที่เชื่อมโยงกับแรงงานข้ามชาติซึ่งเข้าเมืองมาแบบผิดกฎหมาย โดยที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองปล่อยปละละเลย ให้มีการนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน
จนมาถึงการระบาดครั้งที่ 3 นี้ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน โดยมีจุดเริ่มต้นจากเลาจน์ที่ได้รับการอำนวยความสะดวกโดยเจ้าหน้าที่ในท้องที่อย่างคริสตัลคลับ สถานบันเทิงหรูหราที่ต้อนรับลูกค้า V.V.I.P. ทั้งบุคคลในรัฐบาล นักการทูต ทหาร และนักธุรกิจ โดยไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมที่ออกมา จนกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหญ่ และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้น
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการสวมหน้ากาก และปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์ที่ออกมาอย่างว่านอนสอนง่าย แต่การละเลยของอภิสิทธิ์ชนเพียงไม่กี่คนกลับทำให้เกิดการระบาดขึ้น เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย หนึ่งในประเทศที่มีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนมากที่สุดในกลุ่มเศรษฐกิจหลักของโลกและกรณีที่เกิดติดเชื้อขึ้นมา คนรวยที่มีอาการเล็กน้อยสามารถพักฟื้นที่โรงแรมแพงๆ ได้เลย แต่คนส่วนใหญ่ต้องรอเข้ารักษาฟรีในโรงพยาบาลสนามของรัฐ
จากเดิมที่ไทยเคยปราศจากผู้ติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลาหลายเดือน ตอนนี้เชื้อได้แพร่จากสถานบันเทิงชั้นสูงของกลุ่มชนชั้นนำ มาสู่สลัมในกรุงเทพมหานคร ที่ซึ่งการเว้นระยะห่างทางสังคมนั้นเป็นไปไม่ได้เลย รวมไปถึงเรือนจำ แคมป์คนงานก่อสร้าง และโรงงานต่างๆ
จากประเทศที่เคยมีผู้ติดเชื้อสะสมน้อยกว่า 5,000 คน เมื่อ พ.ย. ปีก่อน จนองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมายกย่องว่าสามารถรับมือกับโควิด-19 ได้ดี กลับมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูงถึง 5,800 คน เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จนมีผู้ติดเชื้อสะสมรวมกว่า 1.7 แสนคนเข้าไปแล้ว
โดยการระบาดที่เกิดขึ้นนี้ เป็นช่วงเดียวกันกับที่หลายประเทศทางตะวันตกกำลังเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่กับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ส่วนใหญ่ยังมีวัคซีนไม่เพียงพอกับความต้องการ กลับยังต้องเผชิญกับภาวะการระบาดอยู่
การขาดแคลนวัคซีนนี้ ยังนำมาสู่ประเด็นเรื่องที่มีการซื้อขายบัตรคิวฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยงอย่างชุมชนคลองเตย ซึ่งนางมาเรียม ป้อมดี ประธานชุมชนพัฒนาใหม่ เผยกับนิวยอร์กไทมส์ว่า เป็นการที่คนรวยซึ่งมีสิทธิพิเศษอยู่แล้ว มาเหยียบย่ำคนจนซ้ำอีก จากความเชื่อที่ว่า เงินสามารถซื้อได้ทุกสิ่ง
รายงานชิ้นนี้ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อ 5 มิ.ย. ปัจจุบันถูกเลือกให้อยู่บนพาดหัวของหน้า World News บนเว็บไซต์ nytimes.com