คนไทยทุกคน ปลูกกัญชงได้ เริ่ม 29 ม.ค.64
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาต ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 เฉพาะกัญชง พ.ศ.2563 ว่า
กัญชาและกัญชง เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดจากสกุลเดียวกัน คือ แคนนาบิส(Cannabis) โดยมีสาระสำคัญที่ อย. ใช้จำแนกคือ สารทีเอชซี(Tetrahydrocannabinol :THC) ที่มีผลต่อจิตประสาท ทำให้หลอนหรือเมา หากมากกว่าร้อยละ 1 ต่อน้ำหนักแห้งจะเป็นกัญชาและน้อยกว่าคือกัญชง อย่างไรก็ตาม การควบคุมกัญชาและกัญชง ตามพระราชบัญญัติ(พรบ.) ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 ฉบับ 7 ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 อยู่ ของกัญชามีกฎหมายชัดเจนว่าให้ใช้ทางการแพทย์ ศึกษาวิจัย โดยผู้มีคุณสมบัติในการขออนุญาตได้คือหน่วยงานของรัฐ วิสาหกิจชุมชนร่วมกับหน่วยงานรัฐ และส่วนของกัญชง ในกฎหมายเขียนชัดเจนว่า ให้ออกกฎกระทรวงโดยเฉพาะ ดังนั้น กฎกระทรวงเรื่องกัญชง ที่เผยแพร่ทางราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ชัดเจนว่าเป็นการออกตามพรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 ฉบับที่ 7
"วัตถุประสงค์แต่ละข้อ ไม่ว่าจะทางการแพทย์ ทางพานิชย์ หรืออื่น ๆ ก็จะมีการขออนุญาตตามวัตถุประสงค์ซึ่งมีเอกสารที่แตกต่างกันเล็กน้อยในการขออนุญาต กฎกระทรวงฉบับนี้ลงราชกิจจาฯ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ระบุชัดว่าจะมีผลบังคับใช้ใน 30 วันหลังประกาศในราชกิจจาฯ ก็คือวันที่ 29 มกราคม 2564 สามารถยื่นขออนุญาตได้" ภญ.สุภัทรา กล่าว
ภญ.สุภัทรา กล่าวอีกว่า ตามกฎกระทรวงข้อที่ 11 ระบุในเรื่องขอการขออนุญาต ไว้ว่า ในกรณีที่ขออนุญาตผลิต จำหน่าย ครอบครอง หากสถานที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร(กทม.) สามารถขออนุญาตได้ที่ อย. ส่วนต่างจังหวัดให้ติดต่อไปยังสำนักงานสาธารณสุข(สสจ.) ในจังหวัดที่จะดำเนินการ แต่หากเป็นกรณีนำเข้าหรือส่งออกจะต้องติดต่อขออนุญาตที่ อย.เท่านั้น
"สิ่งที่ อย.กำลังทำคือพยายามออกกฎหมายให้ใช้ทุกส่วนของกัญชาและกัญชงให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอิงตามความเสี่ยงของส่วนต่างๆ ของต้น เช่น ช่อดอกยังคงเป็นยาเสพติดและดำเนินตามแท็กของยาเสพติด ส่วนที่ทีเอชซีน้อยก็ขายไปยังผู้ที่จะนำไปทำผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยที่ อย.ดูแล ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องสำอาง สมุนไพร และยา ก็จะมีกฎหมายมารองรับให้ใช้ส่วนของกัญชงออกมาเป็นสินค้าขาย อย่างไรก็ตามประกาศกระทรวงของผลิตภัณฑ์ ๆ เริ่มทยอยออกมา" ภญ.สุภัทรา กล่าว
ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า ตอนนี้มีประกาศเครื่องสำอางออกมาแล้วว่า สามารถให้น้ำมันหรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ใช้ในเครื่องสำอางได้ และต้นปี2564 ก็จะมีประกาศให้สารซีบีดี(Cannabidiol :CBD) อยู่ในเครื่องสำอางได้เช่นกัน ทั้งนี้ กำลังจะออกประกาศอาหาร เรื่องของการนำเมล็ดกัญชงทำเป็นอาหารเสริมได้ และโดยเฉพาะสมุนไพร มีความเปิดกว้างมาก ซึ่งสามารถนำกัญชงไปทำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น ลูกประคบ ยาหมอง ครีมทาแก้แพ้จากน้ำมันกัญชง ทั้งนี้ อย.จะประกาศอนุญาตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกมาอีกเพิ่มเติม เพื่อเปิดกว้างให้ประชาชนสามารถนำไปสร้างรายได้และเศรษฐกิจได้
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น