ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. แถลงว่า สนับสนุนการยกระดับภัยพิบัติและตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยใช้ศูนย์ป้องกันสาธารณภัยเขต 11 และ 12 ดำเนินการแต่ถ้าจะให้เป็นเอกภาพอยากให้ใช้กองทัพภาค 4ค่ายวชิราลงกรณ์ เป็นศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมภาคใต้เพียงจุดเดียว เพราะเป็นหน่วยงานที่เข้มแข็งทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ มีอุปกรณ์พร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนกรณีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียถามถึงการทำหน้าที่ของพรรคปชป.ในฐานะที่เป็นพรรคที่มีส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้มากที่สุด และพยายามเรียกร้องให้พรรคตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยนั้น เรื่องนี้พรรคไม่ได้ละเลยปัญหาเพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคได้กำชับสมาชิกให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ แต่พรรคมีข้อจำกัดในการทำกิจกรรมเพราะมีคำสั่งคสช. ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมหรือเคลื่อนไหว ไม่เช่นนั้นจะถูกตีความว่าเคลื่อนไหวเพื่อหาเสียง จึงให้สมาชิกไปช่วยเหลือในนามส่วนตัว ขณะเดียวกันในวันที่ 10 มกราคมนี้ นายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานมูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช จะลงพื้นที่ที่ จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ส่วนวันที่ 11 มกราคม นายอภิสิทธิ์จะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะที่อำเภอชะอวด, เฉลิมพระเกียรติ ,ปากพนัง และสิชล เพื่อให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนด้วย
ด้านนายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรคปชป. กล่าวถึงกรณีที่มีการโจมตีพรรคปชป.เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ภาคใต้ว่า อดีตส.ส.ของพรรคปชป.อยู่ในพื้นที่ดูแลประชาชนตลอดทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ช่วยเหลือประชาชนตามอัตภาพเพราะไม่มีงบประมาณจากภาครัฐ แต่มีบางสำนักข่าวถามหานักการเมืองว่าไปอยู่ที่ไหน ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งนี้นายราเมศได้นำภาพการลงพื้นที่ช่วยประชาชนของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคปชป.รวมทั้งภาพอดีตส.ส.พรรคปชป.ในหลายจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม มาแสดงยืนยันว่าพรรคปชป.ไม่ได้ทอดทิ้งประชาชนอย่างที่มีการกล่าวหาจึงไม่อยากให้มีการทำลายความน่าเชื่อถือของนักการเมือง