สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติ น้ำเพิ่มสูง เมืองคอน-สุราษฎร์-พัทลุง-ชุมพร เส้นทางลงใต้อัมพาต รถไฟไปได้แค่ชุมพร ขณะที่มท.ประกาศยกระดับวิกฤติขั้นที่ 3 พร้อมสั่งตั้งกองบัญชาการส่วนหน้า รับมือที่สุราษฎร์-สงขลา ด้าน "บิ๊กตู่" บินลงดูพื้นที่เห็นสภาพแล้วสุดเจ็บปวด
เมื่อวันที่ 6 มกราคม สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคใต้ ยังไม่คลี่คลาย ยังวิกฤติหนักหลังมีฝนตกต่อเนื่องและมีน้ำป่าไหลหลาก โดยสถานการณ์น้ำท่วมในจ.นครศรีธรรมราช ฝนยังไม่หยุดตก มีน้ำท่วมทุกอำเภอ น้ำได้หลากท่วมที่อยู่อาศัยประชาชน พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะถนนสายเอเชีย เส้นทางลงสู่ภาคใต้ตอนล่าง มีน้ำท่วมสูงเป็นช่วงๆทั้งที่บ้านถ้ำใหญ่ และสี่แยกจำปา อำเภอทุ่งสง รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ถนนสายเพชรเกษม ที่บ้านต้นพะยอม อำเภอสิชล ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่จะผ่านลงไปยังภาคใต้ตอนล่าง น้ำท่วมสูงรถผ่านไม่ได้ ทางการไฟฟ้าต้องเข้าไปตัดกระแสไฟ เพื่อความปลอดภัย และยังพบว่ามีรถจำนวนมากจมอยู่ในน้ำ
ในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพวิกฤต น้ำท่วมถนนแทบทุกสาย บางถนนระดับน้ำท่วมสูงกว่า1-2 เมตร และยังต้องการความช่วยเหลือออกจากบ้าน ทั้งผู้สูงอายุและผู้ป่วย เป็นจำนวนมาก ซึ่งทหารจากกองทัพภาคที่ 4 กำลังเร่งเข้าไปช่วยเหลือ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชกล่าวว่าจากการได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอชะอวด ถือว่าหนักมาก รวมทั้งพื้นที่อำเภออื่น ๆ ด้วย
ระดมอพยพ ชะอวด มืดทั้งเมือง
ที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำสูงขึ้นระดับชั้นสองบ้านเรือนประชาชน ทาง อ.ชะอวด เร่งอพยพประชาชนในทุกพื้นที่เร่งด่วน พร้อมการตัดไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยส่งผลให้ทั้งอำเภอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครศรีธรรมราชจำเป็นต้องตัดกระแสไฟฟ้า ในพื้นที่อ.ชะอวดหลังน้ำท่วมสูงเพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าดูด เบื้องต้น ได้ระดมนำเรือหางยาวกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ทหารและตำรวจ อพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยหลังระดับน้ำยังสูงและไหลเชี่ยว ซึ่งไม่สามารถนำเรือท้องแบนเข้าไปในพื้นที่ได้
พิษท่วมปิดสนามบินเมืองคอน2วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเวลา 06.50 น เครื่องบินแอร์เอเชีย สายการบินที่ FD3183 ที่เดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไม่สามารถลงจอดที่สนามบินนครศรีธรรมราชได้ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก และบริเวณรันเวย์สนามบินมีน้ำเจิ่งนอง จึงต้องบินวนกลับไปยังสนามบินดอนเมืองอีกรอบ ล่าสุดได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวไปแล้ว ทั้งนี้ ทางสนามบินนครศรีธรรมราชได้ประกาศหยุดทำการเป็นเวลา 2 วัน จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่สภาวะปกติ
นายแพทย์ ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช กล่าวว่าถนนด้านหน้าและด้านหลังมีน้ำท่วมแต่รถยนต์สูงยังแล่นผ่านได้ซึ่งโรงพยาบาลยังสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ ช่วงเช้ามีคนไข้ 713คนยังเดินทางไปขอรับบริการ แต่อาจจะลำบาก ผู้ป่วยคนใดที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการเดินทาง ให้โทรเบอร์1669จะมีรถออกไปรับ
พิปูนอพยพผวานตกอ่างเก็บน้ำล้น
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ล่าสุด ชาวบ้านหลายครัวเรือนใน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ตัดสินใจยกครัวอพยพออกนอกพื้นที่ เพราะอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง ต.เขาพระ ระดับน้ำเริ่มล้น น่าเป็นห่วงว่าหากฝนยังคงตกหนัก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงเก็บข้าวของย้ายไปอยู่ที่อื่น กลัวจะเหมือนเหตุการณ์เดียวกับปี 31 ที่น้ำท่วมครั้งใหญ่
สุราษฎร์จม/สนามบินยังไม่ปิด
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมจ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีฝนตกลงมาอีกทำให้ยังมีน้ำหลากท่วมถนนหลายสาย อาทิ สายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช พร้อมมีกระแสน้ำไหลแรง ส่วนสาธารณสุขจังหวัดได้เปลี่ยนรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ มาเป็นรถบรรทุกฉุกเฉินเพื่อให้เข้าไปรับผู้ป่วยได้ และพบรถประสบอุบัติเหตุตกถนนหลายคันเนื่องจากน้ำท่วมมองไม่เห็นถนน ขณะที่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานียังเปิดให้บริการได้ มีแผนรองรับเครื่องบินที่ลงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชไม่ได้ อาจเพิ่มเที่ยวบินทดแทนรถโดยสาร และรถไฟที่ผ่านเส้นทางภาคใต้ ไม่ได้
พัทลุงท่วมหนักสุดรอบ30ปี
สถานการณ์น้ำท่วม จ.พัทลุง ครั้งนี้ ถือหนักที่สุดในรอบ 30 ปี ในบริเวณศาลากลางจังหวัดพัทลุง ยังไม่เคยถูกน้ำท่วมมาหลายปีบรรยากาศบนศาลากลาง เป็นไปอย่างเงียบเหงา เพราะข้าราชการไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายเชาวลิต นิฒรรัตน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.พัทลุง ได้ประสานงานกับกำลังทหาร ตชด. อบจ.พัทลุง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุง เทศบาลเมืองพัทลุง นำเรือท้องแบนเข้าอพยพครอบครัว และนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยตามพื้นที่ต่างๆ แล้ว
จากฝนที่ตกหนักมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อ่างเก็บน้ำหลัก 3 อ่าง ได้แก่ อ่างป่าพะยอม อ่างคลองหัวช้างตะโหมด และอ่างป่าบอน อยู่ในระดับเตือนภัยอันตราย ทางจังหวัดฯ ได้เตือนภัยให้ประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์จากน้ำล้นอ่างเก็บน้ำแล้ว มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2 รายคือน.ส.กมลวรรณ นุ่นงคง อายุ 18 ปี จมน้ำเสียชีวิตในสวนยางพารา และ ด.ช.พัฒนพงศ์ พารารักษ์ อายุ 14 ปี ขี่รถจักรยานยนต์พลัดตกลงในคลองไส ยังไม่พบศพ
ชุมพรหนักรอบ20ปีหลังสวนอ่วม
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชุมพร มี 5 อำเภอได้รับผลกระทบแล้ว โดยนายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ยอมรับว่าน้ำท่วมรุนแรงในรอบ20 ปี โดยเขตเทศบาลเมืองหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม น้ำไหลทะลักเข้าในตัวตลาดเขตเทศบาลน้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร บางจุดสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ทยอยขนข้าวของขึ้นที่สูงเพื่อหนีน้ำ โดยเฉพาะถนนสายเอเชีย 41 ช่องทางขาขึ้น กทม.ตั้งแต่บริเวณปั๊ม ปตท.(ปั๊มจิงโจ้) จนถึงสี่แยกไฟแดงหลังสวน น้ำได้เอ่อท่วมผิวจราจร ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตรรถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้
สำหรับการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดเดินรถในเส้นทางสายใต้เหลือเพียง 5 ขบวน โดยทุกขบวนจะสิ้นสุดถึงแค่สถานีจ.ชุมพรเท่านั้น
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ฝนหยุดตกแต่ยังคงมีน้ำท่วมใน5 อำเภอและมีแนวโน้มจะท่วมสูงขึ้นเนื่องจากมีน้ำไหลมาจาก จ.ยะลา และ นราธิวาส ไหลมาสมทบ โดยทางชลประทานได้เร่งระบายลงทะเลผ่านแม่น้ำปัตตานีและคูคลองต่างๆเพื่อระบายน้ำที่ตกค้างอยู่ให้ได้มากที่สุด
นายกฯพร้อมคณะลงเยี่ยมน้ำท่วมใต้
วันเดียวกัน เมื่อช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมคณะรัฐมนตรี อาทินายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงษ์ รมว.คลัง นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้นำเหล่าทัพ เดินทางจากท่าอากาศยานบน.6 ดอนเมืองไปจ.นราธิวาส เพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุกภัยและประชุมงานด้านความมั่นคงและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนใต้
จากนั้นนายกฯเดินทางไปเป็นประธานประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงพร้อมรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาสเบื้องต้นมีมติยกระดับภัยพิบัติสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้เป็นระดับ3โดยให้รมว.มหาดไทยเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์
เผย"ในหลวงร.10"ทรงห่วงปชช.
ช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ พร้อม คณะเดินทางที่อ.ระแงะ เยี่ยมเยียนพบปะประชาชนราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมและมอบถุงยังชีพ1,000 ชุดโดยนายกฯได้ขึ้นกล่าวกับประชาชนบนเวทีช่วงหนึ่งว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งอยู่เสมอว่า คนใต้เป็นคนน่ารัก มีฝีมือ มีความอดทน ต่อความยากลำบาก ขณะที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ใหม่ ทรงห่วงใย ทรงรับสั่งเสมอให้รัฐบาลเสริมสร้างความเข้มแข็ง ดูแลทุกข์สุขประชาชนให้ได้มากที่สุด เหมือนสมัยที่เคยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาก่อน และพร้อมจะพัฒนาภาคใต้ให้เท่าเทียมกับภาคอื่นๆในทุกๆด้านโดยเฉพาะด้านการศึกษาให้เรียนรู้เท่าเทียมกันรู้เท่าทันและ หากการเมือง ศาสนา การปกครองยังเกิดขัดแย้ง การสร้างสันติสุขเกิดขึ้นยาก พร้อมเรียกร้องให้คนพื้นที่ขจัดให้ได้โดยเฉพาะคนเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ไปบิดเบือนเรื่องศาสนาในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
รับเจ็บปวดเห็นใต้ท่วมหนัก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า"เป็นห่วงเรื่องน้ำแต่จะไม่ให้ท่วมเลยไม่ได้เพราะไม่ได้ทำอะไรที่ยั่งยืนมาก่อน ผมเจ็บปวด ผมอดทน ยิ่งมาอยู่ตรงนี้ เจ็บปวดแทนท่านไม่รู้จะทำอย่างไรจะอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือต้องมาดูว่าปัญหาเหล่านี้จะแก้อย่างไร ทั้งเรื่องมั่นคง การลดสถานการณ์ความรุนแรง ปัญหาภัยธรรมชาติ เรื่องใดเล็กๆน้อยๆ ต้องแก้ทันที"และย้ำว่ารัฐบาลนี้พร้อมเป็นสะพานเชื่อมให้คนในพื้นที่ได้เหยียบย่ำก้าวไปสู่ความสงบสุข ลดความรุนแรงเดินสู่อนาคตไปด้วยกัน เชื่อว่าในพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะเป็นสวรรค์การท่องเที่ยวนำรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก และขอคำมั่นสัญญาให้ทุกคนร่วมมือกันพาประเทศ เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เดินหน้า ขอให้ความสงบสันติจงมีแด่ทุกคน จากนั้น นายกฯ เดินทักทายข้าราชการและประชาชนอย่างเป็นกันเองก่อนเดินทางกลับ กทม.
มท.ประกาศยกระดับ3ช่วยน้ำท่วม
มีรายงานข่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ออกประกาศกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เนื้อหาระบุว่าสถานการณ์อุทกภัยทางภาคใต้ มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและแม้แต่ละจังหวัด จะได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อการจัดการในภาพรวมทั้งระบบจึงอาศัยอำนาจประกาศยกระดับการจัดการสาธารณภัย เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3)โดยให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประเมินสถานการณ์ และเสนอความเห็นต่อผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อสั่งการเชิงนโยบาย
สั่งตั้งบก.ส่วนหน้าฯสุราษฎร์-สงขลา
และให้จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า)ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ควบคุมพื้นที่ มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย โดยมีหน่วยงานตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้ความช่วยเหลือประชาชน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุน นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษา ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกลาโหม สนับสนุนทรัพยากรทางทหารและกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือด้านการเกษตรและระบบชลประทาน กรมบัญชีกลาง ขยายวงเงินทดรองราชการ กระทรวงคมนาคม รักษาเส้นทางคมนาคมขนส่ง กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนแพทย์ และเจ้าหน้าที่ กรมประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลสื่อสารถึงประชาชนอย่างถูกต้อง โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้บัญชาการในแต่ละระดับ พร้อมให้ เครือข่ายมูลนิธิ กู้ภัย อาสาสมัคร รวมถึงเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ
สปน.เปิดสายด่วน111ซับน้ำตาใต้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ว่า ในการระดมความช่วยเหลือ เบื้องต้น สปน.รับเป็นหน่วยงานกลางรับบริจาคสิ่งของ และ ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านสายด่วนโทร. 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดบัญชี ส่วนการเยียวยาจะเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย โดยแบ่งเป็นค่าจัดงานศพ 50,000บาท ค่าซ่อมแซมบ้านตามความจำเป็น เครื่องอุปโภค-บริโภค ยารักษาโรค เครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องใช้อื่นๆ ที่จำเป็นแก่ครอบครัว
มท.เผยเบิกงบฯขยาย50ล้านลง9จว.
ด้าน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งด่วนผู้ว่าฯ นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภาคใต้ เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามระเบียบการช่วยเหลือของทางราชการฯให้จังหวัดสามารถจัดจ้าง เช่าเรือ หรือรถยกสูง เพื่อใช้ในการช่วยเหลือลำเลียงพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยที่น้ำท่วมสูง หรือบรรทุกสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่าย ในพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ ล่าสุด กระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจากกรมบัญชีกลางว่าได้อนุมติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด เพิ่มเติมจังหวัดละ 50 ล้านบาท ให้กับจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นราธิวาส พัทลุง ยะลา ปัตตานี ตรังและสงขลา เพื่อให้จังหวัดสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงทีและต่อเนื่อง
ปภ.ชี้9จว.ใต้อ่วมเตือน15จว.ฝนถล่ม
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวสรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่าตั้งแต่วันที่ 1ม.ค. ถึงปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 9จังหวัดได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร68อำเภอ 381 ตำบล 2,507 หมู่บ้าน โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 6 ราย แบ่งเป็น จ.สงขลา 2 ราย นราธิวาส 2 ราย นครศรีธรรมราช 2 ราย
จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับ หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะสุมาตราและทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จนถึงวันที่ 8 มกราคมนี้ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่15จังหวัดได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง จึงแจ้งให้เตรียมรับมืออุทกภัยและดินถล่ม