สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ฯ ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงรัชกาลที่ 9 บำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน และพระราชทานราชสังคหวัตถุตามราชประเพณี
สำนักพระราชวัง แจ้งว่า เลขาธิการพระราชวัง รับพระราชโองการเหนือเกล้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมราชชนก ซึ่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 13 ต.ค. 2559 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้บำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมราชชนก
สำหรับการพระราชทานราชสังคหวัตถุ เป็นราชประเพณีที่มีแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา เมื่อ พ.ศ.2407 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คนชราพิการคนสูงอายุทั้งชายและหญิง เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานราชสังคหวัตถุ อันประกอบด้วยเงิน 1 ตำลึง และผ้า 1 สำรับ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่อๆ มาจึงได้ทรงถือเป็นธรรมเนียมสืบมา โดยในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานราชสังคหวัตถุเป็นเงิน 10 ตำลึง และผ้า 1 สำรับ แก่ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายในเป็นประจำทุกปี ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนแปลงธรรมเนียมการพระราชทานราชสังคหวัตถุ กล่าวคือ โปรดเกล้าฯ พระราชทานเป็นเงินเพียงอย่างเดียว ส่วนผ้า 1 สำรับที่เคยพระราชทานคู่กันมาแต่เดิมโปรดให้งด
ครั้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานราชสังคหวัตถุข้าราชบริพารฝ่ายหน้าและฝ่ายในที่อายุมากกว่า เนื่องในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเป็นประจำทุกปี จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระชนพรรษาสูงขึ้น จึงมีการกำหนดอายุข้าราชบริพารฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ผู้มีสิทธิเข้ารับพระราชทานราชสังคหวัตถุ เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ขอบคุณเนื้อหาจาก :: bangkokbiznews.com