พระราชกรณีกิจครั้งสำคัญของ ร.10 ครั้งนำกำลังปฏิบัติหน้าที่หมู่บ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย สู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรง 40 ปีก่อน ทรงประทับแรมที่ฐานปฏิบัติการณ์เยี่ยงทหารธรรมดาและเป็นผู้บัญชาการรบอย่างกล้าหาญ สร้างขวัญกำลังใจให้ทหาร ตร.ราษฎร
แม้จะผ่านมานานกว่า 40 ปี แต่อินตา สิงขรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมากแข้ง ยังคงจำเหตุการณ์การสู้รบระหว่างตำรวจหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้เป็นอย่างดี เขาเล่าว่าบ้านหมากแข้ง ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก เฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกทับบ้านเรือนพังเสียหาย ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ
ในปี พ.ศ.2519 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งในขณะนั้นมีพระยศเป็นร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์ เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองหมู่บ้าน ทรงประทับแรมในเต๊นท์และบัญชาการรบด้วยพระองค์เอง
"พระองค์ท่านทรงปฏิบัติเหมือนทหาร ตื่นตั้งแต่ตี 5 นอนตอนกลางคืนไม่มีผ้าห่ม ยังไม่ได้สรงพระพักตร์ก็ออกลาดตระเวน เสวยข้าวจี่ทาไข่กับปลาร้า ครั้งนั้นทำให้เรามีกำลังใจขึ้นเยอะ รู้สึกว่ารอดจากภัยคอมมิวนิสต์ รอดจากความตายแล้ว ก็พากันดีใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง" อินตา ผู้ใหญ่บ้านหมากแข้ง เล่า
พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ด้วยพระปรีชาสามารถทางการทหาร โดยไม่หวั่นเกรงอันตรายได้สร้างขวัญกำลังใจให้กับตำรวจ ทหาร และชาวบ้านที่ร่วมเป็นอาสาสมัครสู้รบด้วยจิตใจที่ฮึกเหิม ทำให้สามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ