การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ตลอดช่วง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งและชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนในประเทศไทยตอนบนควรดูแลรักษาสุขภาพอันเนื่องมาจากอากาศหนาวเย็นลงไว้ด้วย
ในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค. สำหรับประชาชนในภาคใต้ตอนล่าง ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และเรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง
และในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะมีกำลังอ่อนลง อุณภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง และคลื่นลมอ่าวไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง อนึ่งพายุโซนร้อน "ไคตั๊ก"(KAI-TAK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 20-21 ธ.ค. และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค. ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-7 องศาเซลเซียส กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค.อุณภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากตอนล่างของภาคลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 -45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 19-21 ธ.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
สำหรับพยากรณ์อากาศประจำวัน ที่ 19 ธันวาคม 2560 ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับภาคใต้มีฝนลดลงและมีอากาศเย็น ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระวัดระวัง เรือเล็กในบริเวณดังกล่าวควรงดออกฝั่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง โดยอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงและมีอากาศเย็น
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง อนึ่ง พายุโซนร้อน "ไคตั๊ก"(KAI-TAK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่าง ในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดาอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ คาดว่าในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค. 60 พายุนี้จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นได้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 21-25 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.