ป้าเหยื่อนร.โหดเข้าแจ้งความที่สน.ปทุมวันแล้ว

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. เวลา 03.00 น. นางสมจิตร พลายเนาว์ อายุ 51 ปี พนักงานทำความสะอาดห้างเซ็นทรัลเวิลด์

อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 3 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ที่ถูกนายขวัญ (นามสมมุติ) วัยรุ่นนักเรียนโหด ใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดที่ใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ชนินทร ง่วนสน พนักงานสอบสวน (สบ1)สน.ปทุมวัน โดยมี พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ปทุมวัน เข้าร่วมฟังการบันทึกคำให้การ โดยใช้เวลาในการสอบปากคำกว่า 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
 

นางสมจิตร ให้การว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.00 น.

หลังจากเลิกงานได้เดินทางกลับบ้านและขณะเดินอยู่บนทางเท้าผ่านด้านหน้าห้างสยามเซ็นเตอร์จนมาถึงบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร รู้สึกว่ามีสิ่งของบางอย่างมาติดรองเท้าผ้าใบ จึงพยายามสลัดเท้า แต่สิ่งของไม่หลุดออกไป จึงก้มลงไปดูพบว่ามีนาฬิกาติดอยู่ จึงหยิบขึ้นมาถือแล้วเดินต่อไปข้างหน้า เพื่อไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านพักด้านหลังโลตัสพระราม 1 จนกระทั่งเกือบถึงป้ายรถเมล์หน้าธนาคารกรุงไทย มีเด็กนักเรียน 2 คน คนหนึ่งสวมชุดนักเรียน ส่วนอีกคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีดำและสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ถามตนว่าเก็บนาฬิกาไปใช่ไหม แต่ตนหูไม่ค่อยได้ยิน จึงฟังไม่รู้เรื่อง จึงถูกเด็กสวมเสื้อยืดสีดำตบที่แก้มด้านซ้าย 1 ครั้ง จนหน้าหัน จึงรีบเดินหนีไปที่หน้าป้ายรถเมล์

แต่ เด็ก 2 คนเดินตามมาอีก และถามว่าเก็บนาฬิกาได้ใช่ไหม จึงหยิบนาฬิกาออกจากกระเป๋าคืนให้พร้อมขอค่ารถเมล์ไว้เดินทางกลับบ้าน
 
แต่กลับถูกเด็กคนสวมเสื้อยืดสีดำคว้าเก้าอี้มาฟาดหน้า จนหน้าหงายแล้วหลบหนีไป จนกระทั่งมีคนขับรถสามล้อเครื่องเห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือ รีบนำส่งรพ.ตำรวจ และนอนพักรักษาตัวจนถึงวันที่ 19 ก.ค. จากนั้นมีพี่สาวและน้องสาวมารับตัวกลับมาพักฟื้นที่บ้าน จ.ขอนแก่น
 

ด้าน พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ พงส.(สบ 3) สน.ปทุมวัน กล่าวว่าเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความจากนางสมจิตร

เพื่อดำเนินคดีกับนายขวัญ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เด็กนักเรียน ม.6 ที่ทำร้ายร่างกายแล้ว ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจะขอเอกสารลงความเห็นจากแพทย์ รพ.ตำรวจ หากผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสและต้องพักมากกว่า 20 วัน จะแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อนำมาประกอบสำนวนส่งฟ้องอัยการศาลเยาวชนตัดสินต่อไปและเรื่องนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ถึงแม้ว่านางสมจิตรไม่เข้าแจ้งความ ตำรวจจะต้องดำเนินคดี ส่วนกรณีที่นางสมจิตรเก็บนาฬิกาของผู้ต้องหาได้นั้น นายขวัญ(นามสมมุติ) สามารถแจ้งความกลับในข้อหายักยอกทรัพย์เอาผิดได้ แต่ขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้มาแจ้งความเอาผิดกับนางสมจิตรแต่อย่างใด.